การบริหารองค์การที่มีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมของบุคลากร ในองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)ศึกษาการบริหารองค์การที่มีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมของบุคลากรในองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี 2)เปรียบเทียบการบริหารองค์การที่มีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมของบุคลากรในองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และ3)ศึกษาความสัมพันธ์การบริหารองค์การที่มีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมของบุคลากรในองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปริมาณ มีกลุ่มตัวอย่างจำนวน 200 คนโดยใช้สูตรของเครจซี่และมอร์แกน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test, F – test ในการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ ผลการศึกษาพบว่า 1)การบริหารองค์การและการมีส่วนร่วมของบุคลากรในองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีโดยภาพรวมอยู่ในระดับเห็นด้วย 2)การเปรียบเทียบตามข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มตัวอย่างโดยรวมไม่แตกต่างกัน ยกเว้น ด้านลักษณะของหน่วยงาน ในเรื่องเพศ ระดับการศึกษา และรายได้ต่อเดือน ด้านลักษณะของผู้บริหารในเรื่องเพศ และด้านลักษณะของบุคลากรในหน่วยงานในเรื่องรายได้ต่อเดือน 2)การมีส่วนร่วมของบุคลากรในองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี โดยรวมไม่แตกต่างกันในด้านการมีส่วนร่วมในการวางแผน ด้านการมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน ยกเว้นด้านการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบผลดำเนินงานในเรื่องเพศอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ3)ศึกษาความสัมพันธ์การบริหารองค์การที่มีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมของบุคลากร พบว่า ค่าเฉลี่ยระดับปัจเจกบุคคล ระดับระหว่างบุคคล และระดับองค์การ มีค่า Sig. (2-tailed) เท่ากับ 0.000, 0.002 และ 0.004 ตามลำดับ
Article Details
เอกสารอ้างอิง
เกรียงศักดิ์ แสงสว่าง. (2566). วัฒนธรรมองค์การและสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตในการทำงานของบุคลากรในองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร. วารสารวิชาการวิทยาลัยสันตพล. 9 (2), 34-42.
กัลยา วานิชย์บัญชา.(2560). การวิเคราะห์สถิติชั้นสูงด้วย SPSS for Window (พิมพ์ครั้งที่ 12). กรุงเทพมหานคร: ห้างหุ้นส่วนจํากัด สามลดา.
ชนัญธิดา สุวรรณศร. (2564). การพัฒนาการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการจัดทำแผนพัฒนาขององค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดปทุมธานี. วารสารการเมือง การบริหาร และกฎหมาย. 13 (1), 379-396.
ชัยเสฏฐ์ พรหมศรี. (2561). ภาวะผู้นำสำหรับผู้บริหารองค์การ : แนวคิด ทฤษฎีและกรณีศึกษา. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ปัญญาชน.
นิวัฒน์ รังสร้อย. (2564).ปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของบุคลากรในกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน. วารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม. 8 (2), 288-301.
พีระยุทธ ศิลาพรหม บุญเหลือ บุบผามาลา สุรชัย ชูคง และวนิดา ณ ลำพูน. (2564). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการของเทศบาลนครอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี. วารสารวิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย. 11 (3), 109-110.
พระเชิดพงษ์ ยตินฺธโร (บุตรดา). (2566).การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบลแสนชาติ อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารเสฏฐวิทย์ปริทัศน์. 2 (2), 1-14.
พภัสสรณ์ วรภัทร์ถิระกุล. (2562). ประสิทธิผลการบริหารจัดการองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดนนทบุรี. Journal of Management Science Nakhon Pathom Rajabhat Universit. 6 (3), 15-31.
ชนัญธิดา สุวรรณศร (2564) ศึกษาวิจัยเรื่องการพัฒนาการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการจัดทำแผนพัฒนาขององค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดปทุมธานี. วารสารนวัตกรรมการศึกษาและการวิจัย. 6 (3), 809-822.
วุฒิสาร ตันไชย. (2559). รูปแบบและประเภทการจัดบริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น.กรุงเทพมหานคร: สถาบันพระปกเกล้า.
สมชัย นันทาภิรัตน์. (2565). องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับการจัดบริการสาธารณะอย่างมีคุณภาพ. วารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์. 8 (1), 114-127.
สมโภชน์ อเนกสุข. (2564). วิธีการเชิงปริมาณ และวิธีการเชิงคุณภาพสู่วิธีการวิจัยแบบผสม. Journal of Education Studies, Burapha University. 3 (1), 1-16.
เอื้อมพร ศิริรัตน์. (2566). ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการมุ่งทำงานเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดนนทบุรี ผลการวิจัยพบว่า. วารสารวิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย. 10 (1), 131-140.
Krejcie, R.V., & D.W. Morgan. (1970). “Determining Sample Size for Research Activities”. Educational and Psychological Measurement. 30 (3), 607 – 610.