การพัฒนาสื่อดิจิทัลในการจัดการเรียนรู้ เรื่องภูมิภาคของโลกกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามแนวคิด ADDIE Model
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาสื่อดิจิทัลในการจัดการเรียนรู้ เรื่องภูมิภาคของโลกกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามแนวคิด ADDIE Model และ 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยสื่อดิจิทัลในการจัดการเรียนรู้ เรื่องภูมิภาคของโลกกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามแนวคิด ADDIE Model แบบแผนของการวิจัยในครั้งนี้เปนแบบศึกษากลุมเดียววัดสองครั้ง (One group Pretest-Posttest design) กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย สามเณรนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนพระปริยัติธรรมศรีจันทร์วิทยา จำนวน 20 รูป เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องภูมิภาคของโลกกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ สื่อดิจิทัลเรื่องภูมิภาคของโลกกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ แบบประเมินคุณภาพสื่อดิจิทัล แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) และการทดสอบสมมติฐานหาค่าที t-test
ผลการวิจัย พบว่า
- ผลการพัฒนาสื่อดิจิทัล ตามแนวคิด ADDIE Model 5 ขั้นตอน มาจัดทำสื่อดิจิทัล
จำนวน 5 บทเรียน บทเรียนละ 50 นาที และมีแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างเรียนและหลังเรียน รูปแบบสื่อดิจิทัลที่นำเสนอมีทั้งเนื้อหาที่เป็นข้อความ กราฟฟิก เสียง วีดีโอ และภาพต่าง ๆ มีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือด้านความตรง โดยผู้ทรงคุณวุฒิ นำมาหาค่าดัชนีความสอดคล้อง ได้ค่า 0.80 - 1.00 ประเมินคุณภาพสื่อดิจิทัลที่พัฒนาขึ้น โดยผู้ทรงคุณวุฒิด้านสื่อ ผลการประเมินคุณภาพอยู่ในระดับดี (= 4.02, S.D. = 0.26) และผลการหาประสิทธิภาพของสื่อดิจิทัล เท่ากับ 81.67/92.67 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด 80/80
- ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยสื่อดิจิทัลในการจัดการเรียนรู้ เรื่องภูมิภาคของโลกกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามแนวคิด ADDIE Model พบว่า สามเณรนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและเผยแผ่ในวารสารฉบับนี้ เป็นทัศนคติและข้อคิดเห็นส่วนบุคคลของผู้เขียนแต่ละท่าน ไม่ถือว่าเป็นทัศนะคติและความรับผิดชอบ
ของบรรณาธิการ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารศรีล้านช้างปริทรรศน์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารศรีล้านช้างปริทรรศน์ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรจากวารสารศรีล้านช้างปริทรรศน์ ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
เกียรติศักดิ์ ล้วนมงคล และวุฒิภา สว่างสุข. (2562). การพัฒนาสื่อเรียนรู้ดิจิทัลเพื่อส่งเสริมทักษะการวาดภาพจิตรกรรมไทย. วารสารมนุษยสังคมปริทัศน์ (มสป.). 21(1). (มกราคม-มิถุนายน 2562). 19-21.
จรินทร อุ่มไกร และ ไกยสิทธิ์ อภิระติง. (2562). การพัฒนาสื่อดิจิทัลร่วมกับเทคโนโลยีความจริงเสริม โดยอาศัยการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD ในรายวิชาคอมพิวเตอร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วารสารโครงงานวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ. 5(2). (กรกฏาคม-ธันวาคม 2562). 25.
ใจทิพย์ ณ สงขลา. (2561). การออกแบบการเรียนแนวดิจิทัล. กรุงเทพ ฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย.
เตชินี ภิรมย์. (2560). ศึกษาและพัฒนาบทเรียนออนไลน์ด้วยโปรแกรม Moodle เพื่อส่งเสริมการจัดกิจกรรม การเรียนรู้สู่ศตวรรษที่ 21กรณีศึกษา : โรงเรียนปลายพระยาวิทยาคม จ.กระบี่. กระบี่: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 13.
ธานินทร์ อินทรวิเศษ และคณะ. (2562). เทคโนโลยีและนวัตกรรมกับการจัดการเรียนการสอนในยุคดิจิทัล. Humanities, Social Sciences and arts. 12(6). (November-December 2019). 480-481.
วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพ ฯ: มูลนิธิสดศรีสฤษดิ์วงศ์.
NT digital solution. (2563). เทคโนโลยีจำเป็นกับการศึกษาไทยจริงหรือ. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 20 ธันวาคม 2564, แหล่งสืบค้น https://www.catebusiness.com/Newsactivity/Detail/H00046.
สุภาณี เส็งศรี. (2561). วิธีวิทยาการสอนคอมพิวเตอร์ : สาระเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสาระเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560). พิษณุโลก : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร.