การพัฒนาประสิทธิภาพและความสามารถการรับรู้ด้านการฟังประโยคคำสั่งภาษาอังกฤษ โดยใช้การสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง (TPR) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนหนองบัววิทยายน

Main Article Content

มาตา วงค์ชารี
ฐรัณภรณ์ ธนานิธิกุลโรจน์
อาทิตย์ ถมมา
สุดาพร นนท์ไพรวัลย์

บทคัดย่อ

            การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและความสามารถการรับรู้ด้านการฟังประโยคคำสั่ง ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน โดยใช้การสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง (TPR) กับเกณฑ์ร้อยละ 70 2. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถการรับรู้ด้านการฟังประโยคคำสั่งภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้การสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง (TPR) 3. เพื่อสำรวจความพึงพอใจของนักเรียนต่อการรับรู้ด้านการฟังประโยค คำสั่งภาษาอังกฤษหลังเรียนโดยใช้การสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง (TPR) กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนหนองบัววิทยายน จำนวน 40 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ 2) แบบทดสอบ และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน, การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ด้วยสถิติทดสอบค่าที (t-test) แบบกลุ่มตัวอย่างไม่เป็นอิสระจากกัน (Dependent Samples) ผลการศึกษาพบว่า


  1. การพัฒนาประสิทธิภาพของความสามารถการรับรู้ด้านการฟังประโยคคำสั่ง ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน โดยใช้การสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง (TPR) โดยใช้การสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง (TPR) มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด คือ 70/70

  2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนหนองบัววิทยายน ที่ได้รับการพัฒนาความสามารถ การรับรู้ด้านการฟังประโยคคำสั่งภาษาอังกฤษ โดยใช้การสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง (TPR) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

  3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการพัฒนาความสามารถการรับรู้ด้านการฟังประโยคคำสั่งภาษาอังกฤษ โดยใช้การสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง (TPR) อยู่ในระดับพอใจมากที่สุด

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
วงค์ชารี ม., ธนานิธิกุลโรจน์ ฐ., ถมมา อ., & นนท์ไพรวัลย์ ส. (2023). การพัฒนาประสิทธิภาพและความสามารถการรับรู้ด้านการฟังประโยคคำสั่งภาษาอังกฤษ โดยใช้การสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง (TPR) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนหนองบัววิทยายน. วารสารศรีล้านช้างปริทรรศน์, 9(1), 73–88. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jslc/article/view/262207
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

คำพันธ์ แสนสุข. (2556). การศึกษาการเรียนรู้การฟังและการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาที่ 1 ด้วยวิธีการสอนแบบการตอบสนองด้วยท่าทาง โรงเรียนมัธยมวัดใหม่กรงทองในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษาระบบสองภาษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรังสิต.

ภัทราพร เกษสังข์. (2559). การวิจัยปฏิบัติการ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ภัทราพร เกษสังข์. (2549). การวิจัยทางการศึกษา. เลย: ภาควิชาวิจัยและประเมินผลการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย.

รมิตา บุญยะมา. (2559). การเปรียบเทียบผลการเรียนรู้และความพึงพอใจในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยการสอนแบบปกติกับการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง (TPR). วารสารออนไลน์บัณฑิตศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

วารุณี ศิริ และอภิราดี จันทร์แสง. (2560). การพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง (TPR) ที่มีผลต่อทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1. (วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต). มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2551). หลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ :คุรุสภาลาดพร้าว.

Asher, J. J. (1968). The Total Physical Response Method for Second Language

Learning. San Jose State College, CA: Department of Psychology.

Ur, P. (1984). Teaching listening comprehension. Cambridge: Cambridge University Press.