แนวทางการบริหารความเสี่ยงของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2

Main Article Content

กกกนก เพ็งสิงห์

บทคัดย่อ

            การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นของการบริหารความเสี่ยงของสถานศึกษา 2. ศึกษาแนวทางการบริหารความเสี่ยงของสถานศึกษา และ 3. ประเมินแนวทางการบริหารความเสี่ยงของสถานศึกษา วิธีดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็น กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 64 คน และครู จำนวน 188 คน รวมจำนวน 252 คน โดยการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตารางเครซี่และมอร์แกน และวิธีสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ระยะที่ 2 การพัฒนาแนวทางการบริหารความเสี่ยงของสถานศึกษา มี 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การสัมภาษณ์เชิงลึก กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ คือ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 3 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง และขั้นตอนที่ 2 การสนทนากลุ่ม โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน และระยะ ที่ 3 การประเมินแนวทางการบริหารความเสี่ยงของสถานศึกษา โดยการประเมินอิงผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบประเมิน สถิติที่ใช้ในวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีความสำคัญของความต้องการจำเป็น และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยวิธีการพรรณนาวิเคราะห์ ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพปัจจุบันของการบริหารความเสี่ยงของสถานศึกษา สังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 2 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x̅ = 3.78, S.D. = 0.62) สภาพที่พึงประสงค์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̅ = 4.84, S.D. = 0.37) และค่าดัชนีความสำคัญของความต้องการจำเป็นเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ด้านการระบุความเสี่ยง (PNImodified = 0.293) 2) ด้านการจัดการความเสี่ยง (PNImodified = 0.285) และ 3) ด้านการประเมินความเสี่ยง (PNImodified = 0.280) 2. แนวทางการบริหารความเสี่ยงของสถานศึกษา มีองค์ประกอบทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการระบุความเสี่ยง มี 3 วิธีการดำเนินการ 4 กิจกรรม/โครงการ และ 4 วิธีปฏิบัติ 2) ด้านการจัดการความเสี่ยง มี 3 วิธีการดำเนินการ 4 กิจกรรม/โครงการ และ 4 วิธีปฏิบัติ 3) ด้านการประเมินความเสี่ยง มี 3 วิธีการดำเนินการ 4 กิจกรรม/โครงการ และ 4 วิธีปฏิบัติ และ 4) ด้านการติดตามและประเมินผลความเสี่ยง มี 3 วิธีการดำเนินการ 4 กิจกรรม/โครงการ และ 4 วิธีปฏิบัติ 3. ผลการประเมินแนวทางการบริหารความเสี่ยงของสถานศึกษา โดยการประเมินอิงผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน มีผลการประเมินโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̅ = 4.92, S.D. = 0.19) เรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยมากไปหาค่าเฉลี่ยน้อย ดังนี้ ด้านความเป็นประโยชน์ (x̅ = 4.99, S.D. = 0.03) ด้านความเป็นไปได้ (x̅ = 4.89, S.D. = 0.25) และด้านความเหมาะสม (x̅ = 4.87, S.D. = 0.30)

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
กกกนก เพ็งสิงห์. (2023). แนวทางการบริหารความเสี่ยงของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2. วารสารศรีล้านช้างปริทรรศน์, 9(2), 25–41. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jslc/article/view/270060
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรรณิการ์ ศิริรัตน์. (2563). การบริหารความเสี่ยงของโรงเรียนเอกชน จังหวัดน่าน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดน่าน. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. (การบริหารการศึกษา). พะเยา: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยพะเยา.

ครองยุทธ นบนอบ. (2563). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จการบริหารความเสี่ยงในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 2. วิทยานิพนธ์ ค.ม. (การบริหารการศึกษา). ฉะเชิงเทรา: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์.

จรัญ พะโยม. (2556). การพัฒนากลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงในสถนศึกษาขั้นพื้นฐานสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 1 และเขต 2. วิทยานิพนธ์ ปร.ด. (ยุทธศาสตร์การบริหารและการพัฒนา). กำแพงเพชร: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.

ชุติมา ชูชั่ง. (2560). ความคิดเห็นของครูที่มีต่อการบริหารความเสี่ยงของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 25 สิงหาคม 2565. แหล่งสืบค้น: http://www.edu-journal.ru.ac.th/index.php/abstractData/viewIndex/1126.ru.

ณัฐชา กลิ้งทะเล. (2561). การบริหารความเสี่ยงของโรงเรียนในกลุ่มตากสิน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 1. วิทยานิพนธ์ ศษ.ม. (การบริหารการศึกษา). ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.

ปนัดดา แก้วศรี. (2560). แนวทางการบริหารความเสี่ยงด้านการเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี. วิทยานิพนธ์ ศษ.ม. (การบริหารการศึกษา). ปทุมธานี: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.

ปรตี ประทุมสุวรรณ์. (2559). กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงของโรงเรียนมัธยมศึกษาตามแนวคิด การพัฒนาความเป็นพลเมืองโลก. วิทยานิพนธ์ ปร.ด. (บริหารการศึกษา). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ประณต มีสอน. (2560). รูปแบบการบริหารความเสี่ยงของมหาวิทยาลัยราชภัฏในเขตกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ ปร.ด. (การบริหารการศึกษา). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ.

ปรีชา มณฑาทิพย์. (2560). กลยุทธ์การบริหารจัดการความเสี่ยงทางการศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาภาวะผู้นำทางบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา.

พอรุ้ง แสงนวล. (2563). การบริหารความเสี่ยงกับประสิทธิผลของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1. วิทยานิพนธ์ ศษ.ม. (การบริหารการศึกษา). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร

ราตรี เลิศหว้าทอง. (2561). การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการความเสี่ยงงานวิชาการของสถานศึกษาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดโดยประยุกต์ใช้แนวคิด SIPOC MODEL. วิทยานิพนธ์ กศ.ด. (การบริหารและพัฒนาการศึกษา). มหาสารคาม: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2. (2564). รายงานการสังเคราะห์การประเมินตนเองของสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 25 สิงหาคม 2565. แหล่งสืบค้น https://www.loei2.go.th/.

เอกลักษณ์ ป้องกัน. (2560). การบริหารความเสี่ยงของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 3. วิทยานิพนธ์ ค.ม. (การบริหารการศึกษา). อุบลราชธานี: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

Cronbach, Lee J. (1990). Essentials of Psychological Testing. New York: McGraw-Hill.

Krejcie, R.V., & Morgan, D.W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607 – 610.

Likert, R.A. (1961, May). Technique for the Measurement of Attitudes. Arch Psychological, 25(140), 1 – 55.