แนวคิดความเป็นผู้แทนทางการเมืองและการปรับใช้ในการเมืองไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
ความเป็นผู้แทนทางการเมืองเป็นหนึ่งในมโนทัศน์ที่สำคัญที่สุดมโนทัศน์หนึ่งในยุคสมัยการเมืองปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่ปกครองระบอบประชาธิปไตย อย่างไรก็ตามมโนทัศน์ความเป็นผู้แทนทางการเมืองประสบปัญหาเช่นเดียวกับมโนทัศน์ทางการเมืองอื่น เช่น ความยุติธรรม สิทธิ ความเสมอภาค ฯลฯ ที่หนึ่งมโนทัศน์
มีหลากหลายแนวคิด นอกจากนี้เมื่อมโนทัศน์ถูกนำเข้าจากบริบทการเมืองตะวันตกและแปลมาใช้ในบริบท
การเมืองไทย มโนทัศน์ได้ถูกบิดและยืดความหมายเดิมและเพิ่มเติมความหมายใหม่
การวิจัยนี้มีมุ่งจุดมุ่งหมายที่จะนำเสนอความหมายและแนวคิดต่างๆ ของความเป็นผู้แทนทางการเมืองให้ชัดเจนและเสนอแนวคิดที่เป็นไปได้มากที่สุดที่มาจากบริบทตะวันตกและการปรับใช้ในทางการเมืองไทย สมมติฐานการวิจัยชิ้นนี้คือความคิดเรื่องความเป็นผู้แทนทางการเมืองมีผลต่อการเมืองไทย แต่บริบทการเมืองไทยได้ลดทอน
ผลของความคิดและการประยุกต์ใช้ความคิด ผู้ร่างรัฐธรรมนูญให้ความสำคัญแก่ปัญหาการทุจริตการเลือกตั้งมากกว่าการทำให้ผู้แทนทางการเมืองทำหน้าที่แทนความต้องการและผลประโยชน์ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
คณะผู้วิจัยใช้การวิจัยเอกสารเพื่อนำเสนอแนวคิดความเป็นผู้แทนทางการเมืองที่แตกต่างหลากหลาย และการปรับใช้ในทางการเมืองไทย คณะผู้วิจัยยังสัมภาษณ์บางส่วนของผู้ร่างรัฐธรรมนูญปัจจุบันในฐานะผู้ให้ข้อมูลหลักเพื่อให้ภาพของการปรับใช้แนวคิดและข้อจำกัดของการปรับใช้แนวคิดนั้น
ความคิดความเป็นผู้แทนทางการเมืองสามารถจำแนกได้เป็น 3 แนวคิดหลัก แนวคิดผู้แทนแบบตัวแทน
แบบได้รับมอบหมาย แบบอาสา โดยการเปรียบเทียบแนวคิดทั้งสาม คณะผู้วิจัยพบว่าแนวคิดความเป็นผู้แทนฯ
แบบอาสามีความเหมาะสมที่สุดที่จับภาพความสลับซับซ้อนของปรากฏการณ์ทางการเมือง และเอาชนะข้อจำกัดของแนวคิดอื่นๆ ที่เหลือ ความคิดความเป็นผู้แทนแบบอาสาจะให้ภาพกระบวนการที่เชื่อมโยงระหว่างผู้แทนทางการเมืองกับผู้ถูกแทน (พลเมืองในเขตเลือกตั้ง) ผ่านการเลือกตั้งหรือกระบวนการทางการเมืองอื่น (การถอดถอน, การกดดัน)
ที่จะสร้างความสัมพันธ์แบบวิภาษวิธีระหว่างผู้แทนและผู้ถูกแทน ในการปรับใช้ความคิดความเป็นผู้แทนทางการเมือง ผลของการวิจัยสนับสนุนสมมติฐานที่ผู้ร่างรัฐธรรมนูญให้ความสำคัญแก่ปัญหาการทุจริตการเลือกตั้งเป็นหลัก
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
@ 2020 King Prajadhipok's Institute The Government Complex Commemorating All Right Reserved.
เอกสารอ้างอิง
ภาษาไทย
กระทรวงธรรมการ, กรมตำรา. (2470). ปทานุกรม พ.ศ. 2470. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์กรมตำรา กระทรวงธรรมการ.
ราชบัณฑิตยสถาน. (2556). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน.
ภาษาอังกฤษ
Burke, E. (1999). Speech To the Electors of Bristol. In F. Canavan & E. J. Payne (Eds.), Select Works of Edmund Burke: A New Imprint of the Payne Edition (pp. 3-14). Indianapolis: Liberty Fund.
Diamond, L. J., & Morlino, L. (2004). The Quality of Democracy: An Overview. Journal of Democracy, 15(4), 20–31. doi.org/10.1353/jod.2004.0060
Hobbes, T. (1998). Leviathan. Oxford; New York: Oxford University Press.
Montesquieu, C. de S. (1989). Montesquieu: The Spirit of the Laws. Cambridge; New York: Cambridge University Press.
Pennock, J. R. (1968). Political Representation: An Overview. In J. R. Pennock & J. W. Chapman (Eds.), Representation (pp. 3-27). New York: Atherton Press.
Pitkin, H. F. (1967). The Concept of Representation. California: University of California Press.
Przeworski, A. (2018). Why Bother with Elections? Cambridge, UK; Medford, MA, USA: Polity Press.
Ravitch, S. M., & Carl, N. M. (2016). Qualitative Research: Bridging the Conceptual, Theoretical, and Methodological. Los Angeles: SAGE.
Rousseau, J.-J. (1999). The Social Contract. In Trans Discourse on Political Economy; and the Social Contract [Discours sur l'oeconomie polititique] (C. Betts, Translate) (pp. 43-168) (C. Betts, Translate). Oxford; New York: Oxford University Press.
Urbinati, N. (2011). Representative Democracy and Its Critics. In S. Alonso, J. Keane, W. Merkel, & M. Fotou (Eds.), The Future of Representative Democracy (pp. 23-49). Cambridge; New York: Cambridge University Press.
Urbinati, N., & Warren, M. E. (2008). The Concept of Representation in Contemporary Democratic Theory. Annual Review of Political Science, 11(1), 387–412. doi.org/10.1146/annurev.polisci.11.053006.190533