การพัฒนาองค์ประกอบการจัดเก็บองค์ความรู้สำหรับซ่อม สร้างพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ เพื่อถ่ายทอดความรู้และทักษะของกลุ่มงานช่างทองหลวงจากรุ่นสู่รุ่น
Main Article Content
บทคัดย่อ
การดำเนินการพัฒนาองค์ประกอบเนื้อหาการจัดเก็บองค์ความรู้สำหรับซ่อม สร้างพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่เพื่อถ่ายทอดความรู้และทักษะของกลุ่มงานช่างทองหลวงจากรุ่นสู่รุ่น มีระยะการดำเนินการ 2 ระยะ เริ่มจาก
ระยะที่ 1 กำหนดเนื้อหาการจัดเก็บองค์ความรู้เพื่อซ่อม สร้างพระพุทธรูทรงเครื่องใหญ่ ดำเนินการจัดเก็บองค์ความรู้เป็นเอกสารการมีเนื้อหาทั้งหมด 4 ด้าน ประกอบด้วย 1) การจัดเก็บองค์ความรู้การออกแบบลวดลายเครื่องประดับเพื่อซ่อม พระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ กรณีชิ้นงานเดิมคงอยู่ 2) การจัดเก็บองค์ความรู้ การออกแบบลวดลายเครื่องประดับเพื่อสร้างพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ 3) การจัดเก็บองค์ความรู้การวิเคราะห์ วัสดุ เทคนิคเชิงช่างเพื่อซ่อม สร้างพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ 4) การจัดเก็บองค์ความรู้การสร้างชิ้นงานเครื่อง
ระยะที่ 2 นำผลจากดำเนินการจัดเก็บองค์ความรู้ที่เป็นเอกสาร ให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการซ่อมงานศิลปกรรมหลวง จำนวน 7 คน ประเมินความเหมาะสมจากเอกสารจัดเก็บองค์ความรู้ ผลการประเมินเอกสาร ด้านที่ 1) การจัดเก็บองค์ความรู้การออกแบบลวดลายเครื่องประดับเพื่อซ่อม พระพุทธรูปทรงเครื่องใหกรณีชิ้นงานเดิมคงอยู่ มีผลการประเมินความเหมาะสม รวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 5.00) ด้านที่ 2) การจัดเก็บองค์ความรู้การออกแบบลวดลายเครื่องประดับเพื่อสร้างพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ มีผลการประเมินเหมาะสมภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (
= 5.00) ด้านที่ 3) การจัดเก็บองค์ความรู้การวิเคราะห์วัสดุเทคนิคเชิงช่างเพื่อซ่อมสร้างพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่มีผลการประเมินความเหมาะสมภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (
= 4.85) ด้าน 4) ดำเนินการจัดเก็บองค์ความรู้การสร้างชิ้นงานเครื่องประดับเพื่อซ่อม สร้างพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ มีผลประเมินความเหมาะสมภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (
= 5.00)
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
|
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร การอาชีวศึกษาภาคกลาง ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารการอาชีวศึกษาภาคกลางหากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่ง ไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์ ในการคัดลอกบทความเพื่อการศึกษาแต่ให้อ้างอิงแหล่งที่มาให้ครบถ้วน สมบูรณ์ สงวนสิทธิ์ โดย สถาบันการอาชีวศึกษาภาคกลาง 4 ที่ตั้ง 90 ถนนเทศา ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โทรศัพท์ 034 242 856 , โทรสาร 034 242 858 ISSN : 3056-9176 (print) ISSN : 2985-2382 (online) |
เอกสารอ้างอิง
กนกพร ฉิมพลี. (2555). รูปแบบการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านหัตกรรมเครื่องจักรสาน : กรณีศึกษาวิสาหกิจชุมชน จังหวัดนครราชสีมา. วิทยานิพน์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
พิสิฐ เจริญวงศ์. (2552). รวมบทความเกี่ยวกับ “การ จัดการทรัพยากรวัฒนธรรม” บทความแนวคิด ประสบการณ์ด้านการจัดการทรัพยากรวัฒนธรรมสากล ตีพิมพ์ในคอลัมน์ “ศิลปะ-วัฒนธรรม” ของหนังสือ “อาทิตย์” รายสัปดาห์ ระหว่างเดือนมกราคม 2536 ถึง มกราคม 2539. กรุงเทพฯ: คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ราชบัณฑิตยสถาน. (2546). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542. กรุงเทพฯ: นานมีบุ๊คส์.
สามารถ เที่ยงพูนวงศ์. (2557). การจัดการความรู้ทางศิลปวัฒนธรรมที่มีอยู่ในชุมชนกรณีศึกษา: วัดใหญ่อินทาราม จังหวัดชลบุรี. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารทั่วไป วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา.
สายันต์ ไพรชาญจิตร์. (2550). จัดการทรัพยากรทางโบราณคดีในงานพัฒนาชุมชน. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: โครงการหนังสือโบราณคดีชุมชน.
Davenport, Thomas, H. and Prusak, Laurence. (1998). Working Knowledge : How rganiza- tions Manage What They Know. Massachusetts : Harvard Business School Press.
Patterson, C. A. Cognitive Feedback as a Tool for Knowledge Acguisition: Naval ostgraduate Wiggins Grant and McTighe Jay. (1998). Understanding by design. Prentice Hall, Inc.
Wiggins, G, & McTghe, J. (1998). Understanding by design. Hoboken, New Jersey : Prentice Hall.