การพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมเสน่ห์จันทน์เพื่อสุขภาพ

Main Article Content

ชลัดดา ยิ้มเยื้อน
น้อมจิตต์ สุธีบุตร

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสูตรพื้นฐานขนมเสน่ห์จันทน์ 2) ศึกษาผลของการใช้น้ำตาลหญ้าหวานทดแทนน้ำตาลทรายและใช้กะทิธัญพืชทดแทนกะทิในสูตรขนมเสน่ห์จันทน์ และ 3) ศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของขนมเสน่ห์จันทน์ที่ใช้น้ำตาลหญ้าหวานและกะทิธัญพืช โดยประเมินคุณภาพของขนมเสน่ห์จันทน์ทางประสาทสัมผัสในด้านลักษณะปรากฏ สี กลิ่น รสชาติ เนื้อสัมผัส และความชอบโดยรวม ด้วยวิธีการชิมแบบให้คะแนนความชอบ 9 ระดับ (9 - Point Hedonic Scale) ผลการวิจัยที่มีการวางแผนการทดลองและวิเคราะห์ผลทางสถิต พบว่า 1) ขนมเสน่ห์จันทน์สูตรพื้นฐานที่ได้รับการคัดเลือกมีส่วนผสมของแป้งข้าวเจ้า 110 กรัม แป้งข้าวเหนียว 15 กรัม กะทิ 250 กรัม น้ำตาลทราย 185 กรัม ไข่แดง 420 กรัม ผงลูกจันทน์ป่น 0.5 กรัม และสีผสมอาหารสีเหลืองและสีน้ำตาล 2) ขนมเสน่ห์จันทน์สูตรที่พัฒนาได้เป็นสูตรที่ใช้น้ำตาลหญ้าหวานทดแทนน้ำตาลทรายร้อยละ 50 และใช้กะทิธัญพืชทดแทนกะทิร้อยละ 100 3) คุณค่าทางโภชนาการขนมเสน่ห์จันทน์ที่ใช้น้ำตาลหญ้าหวานทดแทนน้ำตาลทรายและใช้กะทิธัญพืชมีคุณค่าทางโภชนาการใกล้เคียงกับสูตรพื้นฐาน โดยมีค่าพลังงาน 359.66 กิโลแคลอรี่ โปรตีน 7.29 กรัม ไขมัน 16.38 กรัม ความชื้น 29.66 กรัม คาร์โบไฮเดรต 45.77 กรัม และน้ำตาล 11.09 กรัม

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ยิ้มเยื้อน ช., & สุธีบุตร น. (2024). การพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมเสน่ห์จันทน์เพื่อสุขภาพ. วารสารการอาชีวศึกษาภาคกลาง, 8(1), 85–92. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/IVECJournal/article/view/274185
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2544). ตารางแสดงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารไทย (Nutritive values of thai foods).นนทบุรี: โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.

จริยา เดชกุญชร. (2549). ขนมไทย เล่ม 2. กรุงเทพฯ: เพชรการเรือน.

นิดดา หงษ์วิวัฒน์. (2557). ขนมไทย. กรุงเทพฯ: แสงแดด.

ปพนวีณ์ สุทธิประสิทธิ์. (2560). การทดสอบและการประเมินคุณภาพอาหารด้วยวิธีการทางประสาทสัมผัส. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

พิมพ์เพ็ญ พรเฉลิมพงศ์ และ นิธิยา รัตนาปนนท์. (ม.ป.พ.). คุณภาพอาหาร. ค้นเมื่อ ตุลาคม 15, 2563, จาก http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/3022

รุ่งทิวา วงค์ไพศาลฤทธิ์. (2553). ขนมไทยในงานพิธี. กรุงเทพฯ: ไทยควอลิตี้บุ๊คส์ (2006).

วรารัตน์ สานนท์. (2552). การพัฒนาขนมหม้อแกงไข่ลดพลังงานและการปรับปรุงสัดส่วนกรดไขมันด้วยสารให้ความหวานซูคราโลสและกะทิธัญพืช. วิทยานิพนธ์ ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

วิชชุดา สังข์แก้ว และ สุกฤษฎ์ ประดิษฐวัฒนะกุล. (2557). การพัฒนาผลิตภัณฑ์ไอศกรีมลดพลังงานโดยใช้สารสกัดจากหญ้าหวานทดแทนน้ำตาล. วิทยาศาสตร์เกษตร, 45, (2), (พิเศษ), หน้า 717-720.

วันทนีย์ เกรียงสินยศ. (2551). การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อป้องกันและการจัดการโรคอ้วนและโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง. ในการประชุมวิชาการโภชนาการแห่งชาติ ครั้งที่ 3. (1-3 ตุลาคม หน้า 64-68). นนทบุรี: สมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย.

เศรษฐสิริ วัจนพรพิศาล, ปิยะเมธ ทองเมธา, ลินจง สุวรรณรัตน์ และ ทัศนันท์ จวงสาง. (2558). เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสูตรขนมไทยโบราณสร้างสรรค์สู่ครัวโลก. ฉะเชิงเทรา: วิทยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชิงเทรา.

สิริมนต์ ชายเกตุ, พรเพ็ญ มรกตจินดา, และ วีณา ทองรอด. (2560). การพัฒนาขนมไทยเพื่อสุขภาพ: กรณีศึกษาขนมทองเอก. หน่วยวิจัยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้, 8, (2), หน้า 261-269.

สุปราณี แพรศิริ. (2537). ขนมไทย. กรุงเทพฯ: เอ็มไอเอส.

อบเชย วงศ์ทอง และ ขนิษฐา พูนผลกุล. (2559). หลักการประกอบอาหาร (พิมพ์ครั้งที่ 13). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

อภิชชญา มัยตรีเดช, ปานจิต ป้อมอาสา, วิสันต์ บุญสาร และ สิริมา เถกิงวงศ์ตระกูล. (2563, มกราคม–เมษายน). การพัฒนาผลิตภัณฑ์วุ้นกรอบสตรอเบอร์รีลดพลังงานด้วยหญ้าหวาน. วิทยาศาสตร์บูรพา. 25, (1), หน้า 141-149.

อลงกต สิงห์โต, อุไรภรณ์ บูรณสุขสกุล, รังสิมา ดรุณพันธ์, และ นริศา เรืองศรี. (2563, กรกฎาคม-ธันวาคม). การยอมรับและความพึงพอใจต่อตำรับขนมไทยสูตรลดไขมัน. บูรพาเวชสาร , 6, (2), หน้า 17-27.

Savita, S. M., Sheela, K., Sunanda, S., Shankar A. G., & Ramakrishna, P. (2004). Stevia rebaudiana-A Functional Component for Food Industry. Journal of Humans Ecology, 15, (4), pp. 261-264.