บทบาทและกระบวนการพัฒนาวัดเชิงสร้างสรรค์ของคณะสงฆ์อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู

ผู้แต่ง

  • พระมหาธนัช คมฺภีรญาโณ

คำสำคัญ:

บทบาท, วัด, กระบวนการพัฒนาวัดเชิงสร้างสรรค์

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ข้อ คือ 1) เพื่อศึกษาบทบาทและกระบวนการพัฒนาวัดเชิงสร้างสรรค์ของคณะสงฆ์ในอำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการพัฒนาวัดของคณะสงฆ์ในอำเภออำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู และ 3) เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายการพัฒนาวัดเชิงสร้างสรรค์ ของคณะสงฆ์ในอำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสม (Mixed Method) โดยใช้การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) เป็นตัวเสริมและเพื่อให้สอดคล้องกับความมุ่งหมายของการวิจัย

ผลการวิจัย พบว่า

  1. ลักษณะประชากรของผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีอายุ 51 ปีขึ้นไป จำนวน 82 คน คิดเป็นร้อยละ 29.8 มีพรรษา 1-10 พรรษา จำนวน 169 คน คิดเป็นร้อยละ 61.5 ส่วนใหญ่มีวุฒิทางการศึกษาสายสามัญในระดับมัธยมศึกษา จำนวน 129 คน คิดเป็นร้อยละ 46.9 วุฒิการศึกษาทางธรรมในระดับนักธรรมชั้นตรี จำนวน 115 คน คิดเป็นร้อยละ 41.8 วุฒิการศึกษาทางเปรียญธรรมส่วนใหญ่ไม่มีเปรียญธรรม จำนวน 214 คน คิดเป็นร้อยละ 77.8 ส่วนใหญ่มีตำแหน่งอื่น ๆ คือ เลขาธิการ, เหรัญญิก และพระลูกวัด จำนวน 237 คน คิดเป็นร้อยละ 86.2 และมีประสบการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ต่ำกว่า 5 ปี จำนวน 150 คน คิดเป็นร้อยละ 54.5
  2. ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทและกระบวนการพัฒนาวัดเชิงสร้างสรรค์ของคณะสงฆ์ อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๕๕ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าอยู่ในระดับมาก 4 ด้าน และระดับปานกลาง 2 ด้าน โดยเรียงตามลำดับ ได้แก่ 1) ด้านการสาธารณูปการ โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.86 2) ด้านการปกครอง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.67 3) ด้านการสาธารณสงเคราะห์โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.61 4) ด้านการศาสนศึกษา โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.55
    5) ด้านการเผยแผ่ โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.38 และ 6) ด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ด้านการศึกษาสงเคราะห์ โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.24 ตามลำดับ
  3. ผลวิเคราะห์การทดสอบสมมติฐานการเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทและกระบวนการพัฒนาวัดเชิงสร้างสรรค์ของคณะสงฆ์ อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู สรุปได้ว่า ความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทและกระบวนการพัฒนาวัดเชิงสร้างสรรค์ของคณะสงฆ์ อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู ด้านอายุแตกต่างกันซึ่งยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้ ส่วนด้านพรรษา วุฒิทางการศึกษาสายสามัญ วุฒิการศึกษาทางธรรม วุฒิการศึกษาทางเปรียญธรรม ตำแหน่ง และประสบการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ไม่แตกต่างกันซึ่งปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้

References

กรมการศาสนา.(2542). คู่มือการบริหารและการจัดการวัดฉบับย่อ, (กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์การศาสนา, 2542), หน้า 12.

ธานินทร์ ศิลป์จารุ.(2551). การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วย SPSS, พิมพ์ครั้งที่ 9, (นนทบุรี: บริษัท เอส อาร์ พริ้นติ้ง แมสโปรดักส์ จำกัด, 2551), หน้า 55.

พระพรหมกวี (วรวิทย์ คงฺคปญฺโญ). (2545). วิทยาพระสังฆาธิการ เล่ม 2, (กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2545), หน้า 16.

พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตโต). (2541). การศึกษาเครื่องมือพัฒนาที่ยังต้องพัฒนา, พิมพ์ครั้งที่ 2, (กรุงเทพมหานคร: สหธรรมิก, 2541), หน้า 44.

พระมหาอนุศักดิ์ จันทราลักษณ์. (2554). “ปัญหาและแนวทางแก้ปัญหาการบริหาจัดการวัดของเจ้าอาวาสในจังหวัดมหาสารคาม”, รายงานการค้นคว้าอิสระการศึกษามหาบัณฑิต, (สาขาการศึกษานอกระบบ: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2544), หน้า 63.

สำนักงานเลขานุการเจ้าคณะอำเภอ อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู. (2564). บัญชีสำรวจข้อมูลพระภิกษุ สามเณร และศิษย์วัด ประจำปี 2564, 2 สิงหาคม พ.ศ. 2564.

สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2554). รายงานผลการสำรวจสภาวะทางสังคมและวัฒนธรรม พ.ศ. 2554, ตุลาคม 2554.

Lee J. Cronbach, Essentials of Psychological Testing, 4th ed., (New York: Harper & Row, 1971), p. 123.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2023-05-02