การบริหารจัดการงานศึกษาสงเคราะห์ของพระสังฆาธิการในอำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาระดับการบริหารจัดการงานศึกษาสงเคราะห์ของพระสังฆาธิการ 2) เพื่อเปรียบเทียบจำแนกการบริหารจัดการงานศึกษาสงเคราะห์ของพระสังฆาธิการ 3) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะที่มีต่อการบริหารจัดการงานศึกษาสงเคราะห์ของพระสังฆาธิการในอำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตรใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี ประชากร คือ บุคลากรทางการศึกษา ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสถานศึกษา ข้าราชการครู พนักงานราชการ และครูอัตราจ้าง จำนวน 340 คน โดยวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงสำรวจ เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 184 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถาม มีความเชื่อมั่น .968 สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบค่าที และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ส่วนวิจัยเชิงคุณภาพแบบกึ่งโครงสร้าง โดยเก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 9 รูป/คน โดยวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพการบริหารจัดการงานศึกษาสงเคราะห์ของพระสังฆาธิการ โดยรวมอยู่ในระดับมาก 2) บุคลากรที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพทางสังคม และประสบการณ์การทำงาน มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ และ 3) แนวทางการบริหารจัดการงานศึกษาสงเคราะห์ของ
พระสังฆาธิการในอำเภอบางมูลนาก ด้านการสนับสนุนทุนการศึกษา เพื่อบรรเทาความทุกข์ร้อนของพ่อแม่ ผู้ปกครองและสร้างขวัญกำลังใจ ด้านมีคุณธรรม จริยธรรมและมีจิตใจที่ดีงาม เสริมสร้างความรอบรู้ และพฤติกรรมสุขภาพ ด้านการส่งเสริมสนับสนุนอุปกรณ์การศึกษา ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเองและการแก้ปัญหาตามประสบการณ์ต่าง ๆ ด้านการส่งเสริมและพัฒนาสถานศึกษาจากการศึกษา จัดการศึกษาเพื่อการกุศลโดยไม่หวังผลกำไร มุ่งสงเคราะห์เด็กยากจน