BEHAVIOR AND EXPECTATION OF TOURIST TOWARDS ARCHAEOLOGICAL AND HISTORICAL SITES IN THE INK BASIN IN PHAYAO PROVINCE
Main Article Content
Abstract
This research article aims to a study of behavior and expectation of tourist towards archaeological and historical sites in the Ing River Basin in Phayao Province. is a quantitative research The sample group consisted of 400 tourists who had visited archaeological and historical sites in the Ing River Basin in Phayao Province. The sample group was selected by calculation according to Taro Yamane's formula. Research tools were questionnaires. Research statistics were frequency, percentage, mean and the standard deviation Descriptive data analysis. The results showed that Behavior and Expectation of Tourist towards Archaeological and Historical Sites in Ing River Basin in Phayao Province. Most of the tourists are female. Representing 60.6 percent, aged 21-25 years, representing 17.2 percent. The nature of travel, most of them like to travel with friends and family. 28.1 percent preferred to stay overnight for 1 night, representing 28.3 percent, the expectation of tourists traveling in archaeological and historical attractions. In terms of safety, there are high expectations. The average score was 4.10 from the tourism behavior of tourists who travel to travel, beginning to pay more attention to the safety of life and property during travelling. Experiences that travelers want from traveling. There are demands in all aspects at a high level. What I want to receive from tourism first is the emotional aspect, feeling happy. There is a need at a high level. Therefore, cultural tourism management in archaeological and historical sites in Phayao Province Physical, environmental, facilities should be developed. basic utilities of tourist attractions to be beautiful and attract tourists. As well as organizing tourism activities that delight tourists.
Article Details
References
เสาวคนธ์ ฟรายเก้อ. (2562). แนวทางพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ กรณีศึกษากลุ่มเขาออกการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษอำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช. ใน วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการอุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยว. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
กลุ่มงานบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2. (2560). ยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2. เรียกใช้เมื่อ 10 มิถุนายน 2564 จาก http://osmnorth-n2.moi.go.th/demo/home/
ก่อพงษ์ บุญยการ. (2550). พฤติกรรมและปัจจัยในการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวในการเลือกใช้บริการที่พักในอำเภอปราณบุรีจังหวัดประจวบคีรีขันธ์. ใน วิทยานิพนธ์เศรษฐศาตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ธนภูมิ ปองเสงี่ยม และนิรมล จันทร์แย้ม. (2559). การศึกษาศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวอำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี. ใน การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ครั้งที่ 1 (The 1st RUSNC). มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ.
ธรรมศักดิ์ โรจนสุนทร. (2542). สรุปผลการสัมมนาการพัฒนาการท่องเที่ยวภาคเหนือ. กรุงเทพมหานคร: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย.
บุญเลิศ จิตตั้งวัฒนา. (2548). การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์วิชาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย .
บุณยสฤษฏ์ อเนกสุข. (2558). ยล เยี่ยม เยือน เหย้า : แนวคิดและทฤษฎีว่าด้วยการท่องเที่ยว. พิษณุโลก: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ประกอบศิริ ภักดีพินิจ. (2545). ศักยภาพการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชนริมกว๊านพะเยา : กรณีศึกษาชุมชนบ้านร่องไฮ ตำบลแม่ใส อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา. ใน รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ประกอบศิริ ภักดีพินิจ และกรรณิกา พิมลศรี. (2553). การศึกษาศักยภาพทางการท่องเที่ยวเพื่อ กำหนดแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองชายแดนภูซางอย่างยั่งยืน. ใน รายงานการวิจัย. สำนักงานกองทุนสนับสนุนวิจัย.
พวงรัตน์ ทวีรัตน์. (2540). วิธีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. (พิมพ์ครั้งที่ 7). ใน สำนักทดสอบทางการศึกษาและจิตวิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒประสานมิตร. กรุงเทพมหานคร.
สายฝน ยวนแหล และคณะ. (2548). พฤติกรรมการบริโภคผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยว ในจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่. ใน รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต.
สุชาติ ประสิทธิ์รัฐสินธุ์. (2546). ระเบียบวิธีวิจัยสังคมศาสตร์. (พิมพ์ครั้งที่ 12). กรุงเทพมหานคร: เฟื่องฟูปริ๊นติ้ง.
สุนีย์ อภิชาตกุลชัย. (2557). การเสริมสร้างเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวเพื่อชุมชนสันติสุข: กรณีศึกษาตลาดน้ำอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม. ใน สารนิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสันติศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สุพรรณิการ์ ขวัญเมือง และเบญจวรรณ โมกมล. (2550). ศักยภาพและความพร้อมของการท่องเที่ยวเชิงสปา จังหวัดเชียงราย. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
สุวิมล ติรกานันท์. (2548). ระเบียบวิธีการวิจัยทางสังคมศาสตร์ : แนวทางสู่การปฏิบัติ. (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Best, J. W. (1981). Research in Education. New Jersey: Prentice - Hall.
Chankhanit, A. (2014). Guideline for Tourism Potentiality Building in WiengHuawSubdistrict Administration Organization, Plan District, Chiang Rai Province from Cultural Tourism Route. Research report: Chiang Rai Rajabhat University.
Jennings, G. R. & Nickerson, N. (2006). Quality tourism experiences. Burlington, MA: Elsevier.
Kerry, G. & Jackie, C. (2000). The Tourism DevelopmentHandbook: A Practical Approach to Planning and Marketing. New York: Continuum.
Perreault, W. D. et al. (1979). A Psychological Classification of Vacation Life-styles. Journal of Leisure Research, 9(3), 208-224.