A MODEL FOR AGRI-TOURISM OF THE MODEL COMMUNITY IN BAN HUA KHUA, KAE DAM DISTRICT, MAHASARAKHAM PROVINCE

Main Article Content

Wanna Khampuanbutra
Charin Phakprapai

Abstract

The research aims to study 1) the tourism resource base of the Ban Hua Khua model community 2) agri - tourism activities and 3) service provision in agri - tourism destinations. It is a qualitative and quantitative research by survey method, and the population is a purposive sample. The sampling and tools used were: 1) a structured interview form used with village headmen; 7 occupational group leaders and community development specialist. 2) small group discussions with 14 village headmen and occupational group leaders 3 times. 3) closed-ended questionnaires with 114 tourists. Data were analyzed by descriptive statistics, including: percentage, mean, standard deviation integrated with interviews and small group meetings. The results of the study showed that 1) tourism resource base has 5 aspects: 1) Nong Kae Dam is an important water resource for organic vegetables farmimg 2) Heet Sib Song, traditional activity, has been passed down from the past 3) reed and bamboo are used as raw materials for handicraft 4) occupational groups established base on local wisdom, reed mats, basketry and woven cloth. 5) Saphan Mai Kae Dam is an important tourist destination 2) Regarding agri - tourism activities, there are 4 activities: 1) visiting, making, buying the reed mats and basketry of occupational groups. 2) talking and exchange business knowledge with the homestay group 3) visiting and practicing in the farm with mixed vegetable growing group 4) visiting and making souvenirs with the occupational group 3) providing services in agri - tourism site has 5 factors: 1) the community is willing to provide services and care 2) the community is true natural environment tourist attraction 3) the community has their own agricultural knowledge 4) the community has expertise in service management 5) the community is a place where tourists can access conveniently by various types of vehicles.

Article Details

How to Cite
Khampuanbutra, W., & Phakprapai, C. (2024). A MODEL FOR AGRI-TOURISM OF THE MODEL COMMUNITY IN BAN HUA KHUA, KAE DAM DISTRICT, MAHASARAKHAM PROVINCE. Journal of Social Science and Cultural, 8(1), 26–40. Retrieved from https://so06.tci-thaijo.org/index.php/JSC/article/view/270293
Section
Research Articles
Author Biography

Wanna Khampuanbutra, Faculty of Tourism and Hospitality Mahasarakham University, Mahasarakham, Thailand

-

References

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2565). กระทรวงท่องเที่ยวฯผนึกกระทรวงเกษตรบูรณาการท่องเที่ยววิถีเกษตร. เรียกใช้เมื่อ 15 พฤษภาคม 2565 จาก https://www.mots.go.th/Newsview.php?nid =6882

กระทรวงมหาดไทย. (2554). คู่มือการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ. กรุงเทพมหานคร: สำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน.

กระทรวงมหาดไทย. (2561). คู่มือบริหารโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี. กรุงเทพมหานคร: สำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน.

กระทรวงมหาดไทย. (2562). แนวทางการสร้างสัมมาชีพชุมชน ปี 2562. กรุงเทพมหานคร: สำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน.

ขวัญกมล ดอนขวา และจิตตานันท์ ติกุล. (2557). การพัฒนาคุณภาพการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารเทคโนโลยีสุรนารี, 8(1), 55-71.

ครรชิต จันทะกล. (1 ตุลาคม 2566). ฐานทรัพยากรการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของชุมชนบ้านหัวขัว จังหวัดมหาสารคาม. (วรรณา คำปวนบุตร, ผู้สัมภาษณ์)

เฉลิมสุข เพียงเกษ. (1 ตุลาคม 2566). ฐานทรัพยากรการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของชุมชนบ้านหัวขัว จังหวัดมหาสารคาม. (วรรณา คำปวนบุตร, ผู้สัมภาษณ์)

เทพกร ณ สงขลา. (2554). ความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและการใช้ทรัพยากรเกษตรของชุมชน: กรณีศึกษาท่องเที่ยวเชิงเกษตรช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์, 6(2), 1-12.

เทพกร ณ สงขลา. (2556). รูปแบบการจัดการทรัพยากรเกษตรเพื่อการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ยั่งยืนในอำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช. ใน ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการทรัพยากรเกษตรเขตร้อน. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

ธีรวุฒิ เอกะกุล. (2544). ระเบียบวิธีวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. (พิมพ์ครั้งที่ 2). อุบลราชธานี: วิทยาการพิมพ์.

นวลจันทร์ จันทบุตร และคณะ. (2563). การจัดการการท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตชาวนาในชุมชนเกษตรอินทรีย์ จังหวัดมหาสารคาม. ใน รายงานการวิจัย. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่น.

นาฏสุดา เชมนะสิริ. (2555). การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม.

ประชุมกลุ่มย่อยกลุ่มผู้นำชุมชนบ้านหัวขัว. (1 ตุลาคม 2566). ฐานทรัพยากรการท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของชุมชนบ้านหัวขัว จังหวัดมหาสารคาม. (วรรณา คำปวนบุตร, ผู้สัมภาษณ์)

ปองพล ธวัลหทัยกุล และคณะ. (2550). แนวทางในการพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรมในกลุ่มจังหวัดอีสานใต้. ใน รายงานการวิจัย. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.).

แผนที่ทางอากาศ. (2561). ตำแหน่งที่ตั้งและอาณาเขตบ้านหัวขัว. เรียกใช้เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2561 จาก https://www.google.com/maps/search/บ้านหัวขัว

มารยาท โยทองยศ และปราณี สวัสดิสรรพ์. (2551). การกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างเพื่อการวิจัย. ศูนย์บริการวิชาการสถาบันส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม. เรียกใช้เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2561 จาก http://www.fsh.mi.th/km/wp-content/uploads/2014/04/resch.pdf

ราณี อิสิชัยกุล และคณะ. (2558). การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงเกษตรไทยเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวอาเซียน. ใน รายงานการวิจัย. สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.).

สม จันทบุตร. (1 ตุลาคม 2566). ฐานทรัพยากรการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของชุมชนบ้านหัวขัว จังหวัดมหาสารคาม. (วรรณา คำปวนบุตร, ผู้สัมภาษณ์)

สมระลึก สุระมาศ. (29 พฤศจิกายน 2566). การบริหารจัดการการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของชุมชนต้นแบบในจังหวัดมหาสารคาม. (วรรณา คำปวนบุตร, ผู้สัมภาษณ์)

สำนักงานจังหวัดมหาสารคาม. (2564). แผนพัฒนาจังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. 2561-2565 (ฉบับทบทวน พ.ศ. 2563). เรียกใช้เมื่อ 15 กรกฎาคม 2564 จาก http://www.mahasarakham. go.th/mkweb/im ages/yut/plan2-63.pdf

สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมหาสารคาม. (2559). หมู่บ้านสารสนเทศต้นแบบเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับจังหวัด บ้านหัวขัว หมู่ที่ 4 ตำบลแกดำ อำเภอแกดำ จังหวัดมหาสารคาม. มหาสารคาม: กลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน.

สุกานดา นาคะปักษิณ และคณะ. (2560). รูปแบบการพัฒนาการท่องเที่ยววิถีเกษตรอินทรีย์ในกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 6(1), 209-219.

สุวิมล ตั้งประเสริฐ. (2554). การจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรในจังหวัดนครราชสีมาอย่างยั่งยืนภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง. วารสารราชบัณฑิตยสถาน, 36(4), 607 – 628.

องอาจ นัยพัฒน์. (2551). วิธีวิทยาการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพทางสังคมศาสตร์. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร: สามลดา.

อาทิตย์ ภูมิแกดำ. (2557). ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรอินทรีย์เฉลิมพระเกียรติฯ บ้านหัวขัว หมู่ที่ 4 ตำบลแกดำ อำเภอแกดำ จังหวัดมหาสารคาม. มหาสารคาม: สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอแกดำ.

อาทิตย์ ภูมิแกดำ. (1 ตุลาคม 2566). ฐานทรัพยากรการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของชุมชนบ้านหัวขัว จังหวัดมหาสารคาม. (วรรณา คำปวนบุตร, ผู้สัมภาษณ์)

Belliggiano, A. et al. (2020). “The Eco-Effectiveness of Agritourism Dynamics in Italy and Spain : A Tool for Evaluating Regional Sustainability”. Sustainability, 12(7080), 1–25.

Giritlioglu, I. & Avcikurt, C. (2015). Agrotourism as a tool for Rural development in Turkey. Management and Education, 11(2), 139-145.

Krzeski, S. (2005). Promotion in agro-tourist companies in the region of Warmia and Mazury in Poland. Retrieved September 27, 2022, from http://www.du.se/PageFiles/5052/Krzeski %20Szymon.pdf