THE MODIFIED NORTHERN THAI CLASSICAL DANCE PERFORMANCE FOR LOW BACK PAIN ELDERLY EXERCISES

Main Article Content

Kotchakorn Choowiwatrattanakul
Piyawadee Makpa
Santhanee Khruakhorn

Abstract

This article be partial of dissertation title The Modified Norther Thai Classical Performance For Low Back Pain in Elderly Exercises by elastic bands in elderly who have low back pain. Researcher had collected and synthesized data in Northern Thai Classical Dance, FITT exercising including elastic bands using and to analyze dance postures that taking core muscles of 12 postures as Fon Ngiew Muang standing, Mae Leh, Rang Krapeu Peek (short hands), Rang Krapeu Peek (Long hands), Dor Leh Leh, Jab Pah Kun Sok, Chuam Song, Rub Sod Meue, Wai, Dueng Mai, Nung Zin, Bauban, RorLom that getting the modification dance postures in body warming and body relaxing in 6 postures as SiewChan, Marnmui, Jeebsoong, Burkban, Tangmeue and JeebLai by during exercising through elastic bands of 12 postures as BitLumTau, TangwongJeebsa-el, JeebKaow, TeeLai, Peeseaue, Tangwongsoong, DeungJeebmeuediaw, Roimalai, KomtuowKebFai, Yaekmeue, DuengJeeb, SodsoongJeebLang under the FITT standards that there is the weight from light to medium average by doing activities 3 times a week for total of 8 weeks of the overall 24 times within 30 minutes that be the type of exercise as muscles stretching and use elastic bands for increase resistance for muscles in core of body getting the strong and can reduce the Low Back Pain and spend the Northern Folk songs to help promote elderly have the continuing exercises, also consider safety in exercising on chairs.

Article Details

How to Cite
Choowiwatrattanakul, K., Makpa, P., & Khruakhorn, S. (2024). THE MODIFIED NORTHERN THAI CLASSICAL DANCE PERFORMANCE FOR LOW BACK PAIN ELDERLY EXERCISES. Journal of Social Science and Cultural, 8(4), 221–233. Retrieved from https://so06.tci-thaijo.org/index.php/JSC/article/view/272973
Section
Academic Article

References

กรมกิจการผู้อายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. (2560). ยุทธศาสตร์กรมกิจการผู้สูงอายุ 20 ปี ประจำปี พ.ศ. 2561 - 2580. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์สามลดา.

จิรฉัตร ตั้งเจริญสมุทร และคณะ. (2562). ภาวะอาการปวดหลังส่วนล่างเนื่องจากการทำงานในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2560. วารสารสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย, 9(3), 326-336.

ฉัตรทิพย์ เพ็ชรชลาลัย และสุวิทย์ อุดมพาณิชย์. (2562). ผลของโปรแกรมการออกกำลังกายด้วยยางยืดต่อสมรรถภาพทางกายในผู้สูงอายุไทย. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 12(2), 52-61.

ชฎาพร คงเพ็ชร์. (2562). การออกกำลังกายในผู้สูงอายุ. วารสารพยาบาล, 68(4), 66-69.

ชลธิชา จันทคีรี. (2559). การส่งเสริมพฤติกรรมการออกกำลังกายในผู้สูงอายุที่เปราะบาง. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 24(2), 6-7.

ญาภัทร นิยมสัตย์ และคณะ. (2565). ผลของโปรแกรมการออกกำลังกายด้วยรำวงคองก้าต่อสมรรถภาพทางกายของผู้สูงอายุในจังหวัดนครราชสีมา. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9, 16(2), 497-453.

นัยต์ชนก ถิ่นจะนะ. (2559). ผลของโปรแกรมส่งเสริมการออกกำลังกายที่บ้านโดยใช้ยางยืดต่อสมรรถภาพทางกายของผู้สูงอายุ. ใน วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

เบญญาภา ศรีปัญญา และบรรณสิทธิ สิทธิบรรณกุล. (2563). ผลของโปรแกรมการให้ความรู้ด้านการยศาสตร์การทำงานร่วมกับการออกกำลังกายด้วยยางยืดต่ออาการปวดหลังส่วนล่าง ความสามารถในการทำกิจกรรม และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังในคนทำอาชีพทอผ้าย้อมคราม. วารสารศิลปศาสตร์และวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 7(1), 27-40.

ปรุฬห์จักร อัครารัศม์สกุล. (2562). การสร้างสรรค์ชุดการแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้านภาคเหนือ เพื่อการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อม : โรงเรียนผู้สูงอายุ ตำบลน้ำริด อำเภอเมมือง จังหวัดอุตรดิตถ์. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาศิลปศึกษา. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. (2564). อาการปวดหลังส่วนล่างในผู้สูงอายุ. เรียกใช้เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2567 จาก https://w1.med.cmu.ac.th/family/knowledge /forpeople/4758?fbclid=IwAR0OgGDSpHInO1g6C1j54pa5EJa-tZk8Fr_BgXo46QYSizGLz8Tyi HHjeRg

ภูรดา ธีระวิทย์. (2565). ฟ้อนม่ายมุยเซียงตา : นาฏศิลป์คุ้มพระราชชายาเจ้าดารารัศมี. ใน วิทยานิพนธ์ศิลปมหาบัณฑิต สาขาวิชานาฏศิลป์. สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์.

มาณพ มานะแซม. (2551). ฟ้อนล้านนากับวันเวลาที่ก้าวผ่าน. วารสารวิจิตรศิลป์, 1(2), 73-78.

วายุ กาญจนศร. (2562). AEROBIC EXERCISE: การออกกำลังกายเพื่อป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 42(4), 35-49.

วิไลวรรณ โรจน์เรืองนุกูล และภัทรพงศ์ ทินมณี. (2564). ผลของการออกกำลังกายแบบแมคแคนซี่ (McKenzie exercise) ต่อระดับความเจ็บปวดและความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันในผู้ที่มีอาการปวดหลังส่วนล่าง โรงพยาบาลแพร่. Journal of the Phrae Hospital, 29(2), 43-55.

สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. (2554). พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554. เรียกใช้เมื่อ 2 มกราคม 2567 จาก https://dictionary.orst.go.th/index.php

สุกัญญา พูลโพธิ์กลาง. (2562). ผลของการออกกำลังกายโดยการรำไม้พลองต่อสมรรถภาพทางกายและอาการปวดหลังของผู้สูงอายุ. วารสารพยาบาลสาธารณสุข, 33(3), 95-113.

อรวรรณ แผนคง และอรทัย สงวนพรรค. (2552). ผลของการออกกำลังกายแบบรำไทยประยุกต์ต่อสมรรถภาพทางกาย ความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันและความผาสุกในชีวิตของผู้สูงอายุ. พยาบาลสาร, 39(ฉบับพิเศษ), 118-126.

อัมภิชา นาไวย์ และคณะ. (2563). การพัฒนารูปแบบการออกกําลังกายแบบฟ้อนเจิงเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพทางด้านร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุในชุมชนที่มีอาการปวดข้อเข่า. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 5(10), 266-285.

อารีรัตน์ นวลแย้ม และนวรัตน์ ไวชมภู. (2563). การพัฒนารูปแบบการบริหรร่างกายด้วยศาสตร์มณีเวชสำหรับผู้ป่วยปวดหลังส่วนล่าง โรงพยาบาลหาดใหญ่. วารสารสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 3(3), 39-51.

อำนาจ สุขแจ่ม. (2561). การลดระดับน้ำตาลในเลือดและระดับความดันโลหิตของผู้สูงอายุด้วยโปรแกรมการออกกำลังกายด้วยยางยืด. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ.

อินทิรา รูปสว่าง และคณะ. (2552). การศึกษาติดตามภาวะสุขภาพของผู้ป่วยที่มีปัญหาปวดหลังส่วนล่างเรื้อรังก่อนและหลังผ่าตัดกระดูกสันหลัง. รามาธิบดีพยาบาลสาร, 15(3), 344-360.