สภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการจำเป็นของการจัดการเรียนรู้พลศึกษา ในกิจกรรมกีฬาเนตบอล
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการจำเป็นของการจัดการเรียนรู้พลศึกษาในกิจกรรมกีฬาเนตบอลจากโรงเรียนที่มีการจัดการเรียนรู้พลศึกษาในกิจกรรมกีฬาเนตบอลเหมือนกัน แต่มีบริบทแตกต่างกัน ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงสำรวจ โดยกลุ่มที่ศึกษาประกอบด้วย ผู้สอนที่เชี่ยวชาญ การสอนกิจกรรมกีฬาเนตบอล จำนวน 4 คน และผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาที่ผ่านการเรียนกิจกรรมกีฬาเนตบอลมาแล้ว จำนวน 20 คนจาก 4 โรงเรียน ที่มีบริบทแตกต่างกัน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา การสรุปแบบอุปนัย และการเปรียบเทียบความคงที่ของข้อมูล ผลการศึกษาพบว่า โรงเรียนโดยส่วนใหญ่จัดการเรียนรู้แบบ 5 ขั้นตอน มีการเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมา การฝึกทักษะการรับ-ส่งลูก ทักษะการเคลื่อนไหว ทักษะการทำคะแนน และทักษะการเล่นทีม ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวไม่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้เรียนได้ เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่มี รูปแบบเดิมซ้ำ ๆ มีเกณฑ์ในการวัดและประเมินผลที่ไม่ครอบคลุมกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ ผู้เรียนบางส่วนต้องการให้เปลี่ยนแปลงรูปแบบของกิจกรรมให้มีความน่าสนใจมากขึ้น และต้องการสื่อการเรียนรู้ที่เข้าถึงง่าย สามารถนำกลับไปทบทวนด้วยตนเองได้ จากสิ่งที่พบบ่งชี้ว่า มีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้พลศึกษาในกิจกรรมกีฬาเนตบอลให้มีเนื้อหาที่ครอบคลุม มีกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทันสมัย น่าสนใจ มีสื่อการเรียนรู้ที่ง่ายต่อการจัดเก็บและนำกลับไปทบทวนได้ด้วยตนเอง รวมทั้งสามารถพัฒนาผู้เรียนที่มีลักษณะแตกต่างกันให้มีผลสัมฤทธิ์ และความสามารถในทักษะต่าง ๆ ที่ดีขึ้น และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551. เรียกใช้เมื่อ 18 พฤษภาคม 2567 จาก https://drive.google.com/file/d/0B9t56k6dmUe5TmdNMzJNajNfM1k/view.
กุลิสรา จิตรชญาวณิช. (2562). การจัดการเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ทิศนา แขมมณี. (2561). รูปแบบการเรียนการสอน : ทางเลือกที่หลากหลาย. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นภาพรรณ ปิ่นทอง และนัยนา บุพพวงษ์. (2565). การจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษาของครูในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา สังกัดสำนักงานศึกษาธิการภาค 4. วารสารสังคมศาสตร์วิจัย, 1-19.
บดินทร์ ปั้นบำรุงกิจ เเละคณะ. (2561). แนวทางการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนวิชาพลศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ปีการศึกษา 2558. วารสารวิจัยรำไพพรรณี, 12(1), 49-57.
ประสาท เนื่องเฉลิม. (2563). ครูในศตวรรษที่ 21. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 39(1), 15-24.
ปรียานุช หน่อท้าว. (2560). แรงจูงใจ. เรียกใช้เมื่อ 18 พฤษภาคม 2567 จาก https://secretary-science.mju.ac.th/goverment/25570522101243_science_secretary/Doc_25600703115538_119338.pdf.
ยุพิน อินทะยะ. (2553). ผลของการบูรณาการงานบริการวิชาการกับการเรียนการสอนและการวิจัยในรายวิชา CI 3508 กรณี : การพัฒนากิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นฐาน. วารสารบัณฑิตวิจัย, 10(2), 131-152.
วรศักดิ์ เพียรชอบ. (2561). รวบรวมบทความเกี่ยวกับปรัชญา หลักการ วิธีสอนและการวัดเพื่อประเมินผลทางการพลศึกษา. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สังวร จันทรกร. (2563). การพัฒนารูปแบบการสอนลีลาศแบบผสานรูปแบบสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีในรายวิชาหมวดวิชาศึกษาทั่วไปของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล. ใน ดุษฎีนิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษา. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สำนักข่าวไทย. (2565). ทำความรู้จัก “เนตบอล” กีฬาที่ผู้หญิงนิยมเล่นมากกว่าผู้ชาย. เรียกใช้เมื่อ 21 มีนาคม 2567 จาก https://tna.mcot.net/sport-906863.
อนุวัติ คูณแก้ว. (2562). สถิติเพื่อการวิจัย. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization [UNESCO]. (2020). Education in a post-COVID world: Nine ideas for public action. Retrieved April 18, 2024, from https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000373717/PDF/373717eng.pdf.multi.