การพัฒนาแผนการเรียนพลศึกษาและกีฬา ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและประเมินความต้องการจำเป็นของแผนการเรียนพลศึกษาและกีฬา ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เก็บข้อมูลจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง คือ ครูผู้รับผิดชอบหลักสูตรในโรงเรียนกรณีศึกษา จำนวน 12 คน นักเรียนที่เรียนในหลักสูตรเทียบเคียง จำนวน 24 คน ผู้ปกครองของนักเรียน จำนวน 24 คน ผู้บริหารระดับเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กรุงเทพมหานคร เขต 1 และเขต 2 จำนวน 6 คน ผู้อำนวยการโรงเรียนหรือรองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ ในโรงเรียนที่ไม่มีแผนการเรียนเทียบเคียง จำนวน 6 คน และอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรระดับปริญญาตรี ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับพลศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย จำนวน 6 คน โดยใช้การสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง และ 2) สังเคราะห์แนวทางการพัฒนาแผนการเรียนพลศึกษาและกีฬาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เก็บข้อมูลจาก ผู้เชียวชาญทางด้านพลศึกษา จำนวน 5 คน วิธีการดำเนินการโดยใช้การสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา การสรุปอุปนัย และการเปรียบเทียบความคงที่ของข้อมูล ผลการวิจัยพบว่า ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันและประเมินความต้องการจำเป็น พบว่า ที่มาของปัญหาของแผนการเรียนเทียบเคียงในปัจจุบันด้านรายวิชาเพิ่มเติมมีรายวิชาที่แตกต่างกันและได้แนวทางการสังเคราะห์การสร้างและพัฒนาแผนการเรียนพลศึกษาและกีฬา ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านพลศึกษา เพื่อเป็นการกำหนดจุดมุ่งหมายของแผนการเรียนพลศึกษาและกีฬา ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายให้เป็นเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ยึดหลักการโดยรายวิชาพื้นฐานให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ส่วนรายวิชาเพิ่มเติมให้ออกแบบตามผู้เชี่ยวชาญแนะนำและควรให้สอดคล้องกับความถนัดและความสนใจของผู้เรียนและบริบทของสถานศึกษาเป็นสำคัญ