ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เนยแข็งของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เนยแข็งของผู้บริโภค โดยการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา มาตรวัดแบบลิเคอร์ท และการทดสอบแบบจำลองโลจิสติกแบบทวิ (Binary Logistic Regression) โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 400 คน ซึ่งเป็นผู้ที่เคยซื้อผลิตภัณฑ์เนยแข็งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 21-30 ปี สถานภาพโสด มีอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน มีรายได้ต่อเดือนระหว่าง 20,001-30,000 บาท และมีการศึกษาในระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า สำหรับพฤติกรรมของกลุ่มตัวอย่างนั้นมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการซื้อผลิตภัณฑ์เนยแข็ง 530.51 บาทต่อคนต่อเดือน ส่วนใหญ่มีความถี่การซื้อผลิตภัณฑ์เนยแข็ง 1-2 ครั้งต่อเดือน ส่วนของผลการศึกษาถึงปัจจัยด้านส่วนประสมทางการตลาดนั้น ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา และด้านช่องทางการจัดจำหน่ายอยู่ในระดับมาก และด้านการส่งเสริมการตลาดอยู่ในระดับปานกลาง จากการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้แบบจำลองโลจิสติกแบบทวิ (Binary Logistic Regression) พบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อความถี่ในการซื้อผลิตภัณฑ์เนยแข็ง ได้แก่ ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดด้านผลิตภัณฑ์ และปัจจัยส่วนบุคคลด้านรายได้เฉลี่ยต่อเดือน โดยกลุ่มที่ให้ความสำคัญด้านการตลาดเพิ่มขึ้น และกลุ่มผู้ที่ระดับรายได้เฉลี่ยต่อเดือนมากกว่า 20,000 บาทขึ้นไป จะมีความน่าจะเป็นที่จะมีความถี่ในการซื้อผลิตภัณฑ์เนยแข็งตั้งแต่ 1 ครั้งต่อเดือนขึ้นไปเพิ่มขึ้น ดังนั้น ผู้ประกอบการควรใช้กลยุทธ์ด้านส่วนประสมทางการตลาดเพื่อพัฒนาสินค้าให้ตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านรสชาติ และรักษาคุณภาพของสินค้าโดยใช้เทคโนโลยีต่างๆ เช่น การใช้เทคโนโลยีด้านบรรจุภัณฑ์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น