ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเข้าร่วมการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี ของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามบางแพ จังหวัดราชบุรี

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพทั่วไปของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามบางแพ จังหวัดราชบุรี (2) ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการเข้าร่วมมาตรฐานการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีสำหรับการผลิตสัตว์น้ำ (GAP) ผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามบางแพ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม โดยจะเป็นลักษณะคำถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ แบบจำลองโลจิต (Logit model) ผลการศึกษาพบว่า สภาพทั่วไปของกลุ่มตัวอย่างเกษตรกรที่มีใบรับรอง GAP และไม่ได้รับใบรับรอง GAP จำนวน 118 ราย ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุเฉลี่ย 56.10 ปี ระยะเวลาในการศึกษาเฉลี่ย 8.42 ปี จำนวนสมาชิกในครัวเรือนเฉลี่ยอยู่ที่ 3.33 คน จำนวนแรงงานในครัวเรือนเฉลี่ย 2.31 คน ประสบการณ์ในการเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามเฉลี่ย 10.34 ปี และขนาดพื้นที่บ่อเพาะเลี้ยงมีขนาดอยู่ที่ 11-20 ไร่ ลักษณะการถือครองที่ดินส่วนใหญ่เป็นที่มีกรรมสิทธิ์เป็นของตนเอง ร้อยละ 96.61 และ ร้อยละ 83.05 ตามลำดับ และสภาพแวดล้อมรอบบ่อส่วนใหญ่เป็นบ่อเพาะเลี้ยง และเป็นแปลงผักและผลไม้ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการยอมรับการเข้าร่วมการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีของเกษตรกรที่มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 99 ได้แก่ การติดต่อกับเจ้าหน้าที่ประมง ในส่วนของปัจจัยที่ส่งผลต่อการยอมรับการเข้าร่วมการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี ของเกษตรกรที่มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 95 ได้แก่ จำนวนสมาชิกในครัวเรือน ราคาขายกุ้งก้ามกรามที่เกษตรกรคาดหวัง และทัศนคติของเกษตรกรในการเลี้ยงกุ้งแบบมีมาตรฐาน ในขณะที่ปัจจัยที่ส่งผลต่อการยอมรับการเข้าร่วมการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี ของเกษตรกรที่มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 90 ได้แก่ การเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มเกษตรกร