แนวทางการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อการบริหารงานในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาฉะเชิงเทรา เขต 1
คำสำคัญ:
แนวทางการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์, การบริหารงานในสถานศึกษา, ปัญญาประดิษฐ์เพื่อบริหารการศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการบริหารโรงเรียน รวมถึงหาแนวทางนำ AI มาใช้ในการบริหารและการจัดการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างเป็นครูสังกัด สพป.ฉะเชิงเทรา เขต 1 จำนวน 310 คน เก็บข้อมูลผ่านแบบสอบถามออนไลน์และวิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา ผลวิจัยพบว่า ร้อยละ 80 ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่า AI ช่วยลดภาระงานธุรการและบริหารโรงเรียนได้ ขณะที่ร้อยละ 70 มีประสบการณ์ใช้ AI บ้างแล้ว เช่น ช่วยจัดทำเอกสารหรือออกแบบโครงการ ส่วนอีกร้อยละ 20 ยังไม่เคยใช้ เนื่องจากขาดความเข้าใจหรือไม่แน่ใจว่าจะประยุกต์ใช้กับงานของตนอย่างไร นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามยังแสดงความต้องการใช้ AI ในด้านต่าง ๆ เช่น จัดตารางเรียน ติดตามผลการเรียน และลดงานเอกสาร แนวทางการนำ AI มาใช้ในโรงเรียน ประกอบด้วย (1) จัดการข้อมูลนักเรียนด้วยระบบอัจฉริยะ (2) วิเคราะห์ผลการเรียนและพฤติกรรมนักเรียน (3) ติดตามความก้าวหน้าทางการเรียนรู้ (4) ประเมินผลบุคลากรด้วย AI และ (5) พัฒนาสื่อการสอนแบบปรับแต่งได้ตามความแตกต่างของผู้เรียน เพื่อให้การใช้งาน AI มีประสิทธิภาพ ควรมีการอบรมทักษะ AI ให้ครู พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และจัดทำแผนดำเนินงานทั้งระยะสั้น กลาง และยาว พร้อมกำหนดนโยบายที่ชัดเจน การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่า AI มีศักยภาพสูงในการยกระดับการบริหารและการเรียนการสอนในโรงเรียน แต่ความสำเร็จขึ้นอยู่กับความพร้อมของบุคลากร โครงสร้างพื้นฐาน และการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การนำ AI มาใช้อย่างมีระบบจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานการศึกษาได้อย่างมีนัยสำคัญ
เอกสารอ้างอิง
คมสันต์ สุผาครอง, สมเกียรติ ตุ่นแก้ว และ ประเวศ เวชชะ. (2568). กลยุทธ์การบริหารจัดการศึกษาโรงเรียนเอกทวีวิทย์สู่สากลในยุคปัญญาประดิษฐ์. Journal of Applied Education, 3(2), 35-48.
ณัฐพล เมฆเคลื่อน และ ทิพรัตน์ สิทธิวงศ์. (2568). ความสัมพันธ์ระหว่างการยอมรับการใช้งานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กับความพึงพอใจ ในการทำงานในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 2. Journal of Applied Education, 3(2), 71-82.
ภัควลัญชญ์ ผาณิตพิเชฐวงศ์, ชุติวรรณ ภัทรานุรักษ์กุล, ณัชชา ธาตรีนรานนท์ และ อภิรดี ลิ้มโยธิน. (2567). แนวทางการประยกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์รังสรรค์ สำหรับการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษา. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี, 13(1), 31-45.
สมพร นามอินทร์ และชาตรี สุขสบาย. (2567). ปัญญาประดิษฐ์ที่มีผลกระทบต่อการออกแบบการจัดการศึกษา. วารสารปราชญ์ประชาคม, 2(4), 60-71.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาฉะเชิงเทรา เขต 1. (2566). รายงานผลการดำเนินงานประจำปี. สืบค้นจาก http://www.ccs1.go.th/itaShow/158.
Dynamic Intelligence Asia (DIA). (2567). AI กับการศึกษา ตัวช่วยสุดอัจฉริยะ เพื่อมิติใหม่แห่งการเรียนรู้ที่ดีกว่า. สืบค้นจาก https://www.dia.co.th/articles/ai-in-education/.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610.
Luckin, R and Holmes, W. (2016). Intelligence Unleashed: An argument for AI in Education. Retrieved from https://discovery.ucl.ac.uk/id/eprint/1475756/.
McDonald, N., Johri, A., Ali, A., & Collier, A. H. (2025). Generative artificial intelligence in higher education: Evidence from an analysis of institutional policies and guidelines. Computers in Human Behavior: Artificial Humans, 3, 100121.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสังคมศาสตร์ปัญญาพัฒน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.