การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวรรัตน์ศึกษา นนทบุรี

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD ในรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวรรัตน์ศึกษา นนทบุรี ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม และ (3) ศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่ได้รับการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง โดยใช้กรอบแนวคิดด้านการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD ของสลาวิน (Slavin, 1990) ซึ่งประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การนำเสนอบทเรียน 2) การจัดกลุ่ม 3) การเรียนรู้ 4) การประเมินผล/แบบทดสอบย่อย และ 5) การรับรองผลงานและชมเชยเผยแพร่ชื่อเสียง กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/3 โรงเรียนวรรัตน์ศึกษา นนทบุรี 1 ห้องเรียน มีนักเรียน จำนวน 32 คน โดยใช้การคัดเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีแบบกลุ่มตัวอย่างไม่อิสระ (dependent samples t-test) ผลการวิจัย พบว่า 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD ในรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เท่ากับ 82.42/88.80 (E₁/E₂) 2) ผู้เรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ 3) ผู้เรียนพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด