ศึกษาสภาพปัญหาการดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวมุสลิมในเขต ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการดูแลผู้สูงอายุตามบทบัญญัติอิสลาม 2) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาการดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวมุสลิมในเขตตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
โดยทำการศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากอัลกุอาน ฮะดีษ หนังสือตำรา เอกสารวิชาการ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างผู้ดูแลผู้สูงอายุในเขตตำบลบันนังสตาจำนวน 19 คน คัดเลือกโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย แล้วมาเปรียบเทียบตารางเครซี่และมอร์แกน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามหาค่าความเชื่อมั่นด้วยสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบัค มีค่าเท่ากับ 0.76 และ 0.80 ค่าดัชนี IOC มีค่ามากกว่า 0.5 นำมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเก็บข้อมูลผู้ให้การสัมภาษณ์ จำนวน 4 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสัมภาษณ์ แล้วนำมาวิเคราะห์หาข้อสรุปและนำเสนอข้อมูลเชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า 1) อิสลามได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุไว้อย่างชัดเจน เช่น การกตัญญู การปฏิบัติดูแล และการอุปการะเลี้ยงดูผู้สูงอายุ โดยกำหนดให้มุสลิมควรมีพื้นฐานในการดูแลและยึดหลักการดูแลผู้สูงอายุตามบทบัญญัติอิสลาม เพื่อให้มุสลิมได้ตระหนักถึงการดูแลผู้สูงอายุ 2) สภาพปัญหาการดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวมุสลิม พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ใช้หลักคำสอนทางศาสนาเป็นแนวทางในการดูแล โดยให้ผู้สูงอายุรำลึกถึงอัลลอฮฺ (ซ.บ.) อยู่ตลอดเวลา คอยเอาใจใส่ผู้สูงอายุอยู่เสมอ และดูแลผู้สูงอายุในเรื่องการเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อม การกิน และการรักษา โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง คิดเป็นค่าเฉลี่ย 3.21 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.06 จากการวิเคราะห์ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ดูแลมีแนวทางหรือวิธีการในการดูแลผู้สูงอายุตามหลักการอิสลาม บุตรหลานควรให้ความสำคัญและเป็นกำลังใจให้ผู้สูงอายุอยู่ตลอด ไม่ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกโดดเดี่ยว และหมดกำลังใจในการใช้ชีวิตที่เหลือต่อไป