การพัฒนาศักยภาพการปกครองคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการในอำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว

ผู้แต่ง

  • พระมหาสมพาร จิตฺตสํวโร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • พระเทพวัชรสารบัณฑิต (ประสาร จนฺทสาโร) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • ประเสริฐ ธิลาว มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

คำสำคัญ:

การพัฒนาศักยภาพ, พระสังฆาธิการ, การปกครองคณะสงฆ์

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1. ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างหลักการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และหลักไตรสิกขากับการพัฒนาศักยภาพการปกครองคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการ 2. นำเสนอการพัฒนาศักยภาพการปกครองคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการในอำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยใช้แบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ พระภิกษุสงฆ์ในอำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว จำนวน 158 รูป และการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ พระสังฆาธิการ ผู้นำท้องถิ่น และนักวิชาการด้านการพัฒนาศักยภาพบุคคล จำนวน 10 รูปหรือคน สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน

ผลการวิจัยพบว่า 1. หลักการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ด้านการฝึกอบรมมีความสัมพันธ์เชิงลบกับการพัฒนาศักยภาพการปกครองคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการอำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ด้านความรู้ และด้านทักษะ อยู่ในระดับต่ำมากอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ด้านการศึกษามีความสัมพันธ์เชิงลบกับการพัฒนาศักยภาพการปกครองคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการอำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ด้านทักษะ อยู่ในระดับต่ำมาก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และหลักไตรสิกขา ด้านปัญญา มีความสัมพันธ์เชิงลบกับการพัฒนาศักยภาพการปกครองคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการอำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ด้านความรู้และด้านทักษะ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 2. การพัฒนาศักยภาพพระสังฆาธิการในอำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว มุ่งเน้นการพัฒนาทั้งด้านทรัพยากรมนุษย์และหลักไตรสิกขา ผ่านการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การส่งเสริมการศึกษาระดับอุดมศึกษา และกิจกรรมวิชาการอย่างต่อเนื่อง วัดถูกพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ โดยเน้นการวางแผน การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และกิจกรรมจิตอาสา พร้อมปลูกฝังการปฏิบัติธรรมด้านศีล สมาธิ และปัญญา ควบคู่กับการเสริมบุคลิกภาพ ทัศนคติ ความรู้ ทักษะ และความคิดสร้างสรรค์ ทำให้การบริหารคณะสงฆ์มีประสิทธิภาพและยั่งยืน

เอกสารอ้างอิง

กรมการศาสนา. (2540). คู่มือพระสังฆาธิการว่าด้วยเรื่องการคณะสงฆ์และการศาสนา. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์การศาสนา.

คณาจารย์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2551). การปกครองคณะสงฆ์ไทย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระปลัดสุมิตร มณีโชติ. (2566). รูปแบบการพัฒนาทรัพยากรบุคคลทางพระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์ ภาค 15. วารสารนวัตกรรมการศึกษาและการวิจัย, 7(3), 870-883.

พระมหาจำนงค์ สิริวณฺโณ และคณะ. (2564). การบริหารกิจการคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการในศตวรรษที่ 21. Journal of Modern Learning Development, 6(6), 371-383.

พระมหาอรรถพงษ์ สิริโสภโณ และคณะ. (2565). แนวทางการพัฒนาศักยภาพพระสังฆาธิการแบบมีส่วนร่วมในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดมหาสารคาม. วารสารมหาจุฬาวิชาการ, 9(3), 362-375.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

สำนักงานเจ้าคณะอำเภอวังน้ำเย็น. (2566). สถิติพระภิกษุสามเณรจำพรรษา ประจำปี พ.ศ. 2566. สระแก้ว: สำนักงานเจ้าคณะอำเภอวังน้ำเย็น.

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. (2545). การพัฒนาพระสังฆาธิการคณะสงฆ์ ภาค 1. กรุงเทพฯ: สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.

_____. (2550). คู่มือวิชาการโครงการคนรักษ์วัด. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.

อำนาจ บัวศิริ. (2563). แนวทางการพัฒนาการปกครองคณะสงฆ์ไทย. วารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์, 1(1), 37-47.

Yamane, T. (1973). Statistic: An Introductory Analysis (3rd ed.). New York: Harper and Row.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-08-15

รูปแบบการอ้างอิง

จิตฺตสํวโร พ., (ประสาร จนฺทสาโร) พ., & ธิลาว ป. (2025). การพัฒนาศักยภาพการปกครองคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการในอำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว. วารสารพุทธนวัตกรรมและการจัดการ, 8(4), 112–126. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/bim/article/view/285258