ความต้องการจำเป็นในการพัฒนาการบริหารวิชาการโรงเรียนประถมศึกษา ตามแนวคิดทักษะภาวะผู้นำในอนาคต THE NEEDS OF DEVELOPING PRIMARY SCHOOL ACADEMIC MANAGEMENT BASED ON THE CONCEPT OF FUTURE LEADERSHIP SKILLS
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารวิชาการโรงเรียนประถมศึกษาตามแนวคิดทักษะภาวะผู้นำในอนาคต และวิเคราะห์ความต้องการจำเป็นในการพัฒนาการบริหารวิชาการโรงเรียนประถมศึกษาตามแนวคิดทักษะภาวะผู้นำในอนาคต ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ ประชากร คือ โรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน รวม 27,414 โรงเรียน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ โรงเรียนประถมศึกษา จำนวน 394 โรงเรียน ได้จากการสุ่มแบบแบ่งชั้นตามสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและการสุ่มอย่างง่าย ผู้ให้ข้อมูล ประกอบด้วย ผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 788 คน และครูผู้สอน จำนวน 1,182 คน รวมทั้งสิ้น 1,970 คน เครื่องมือวิจัย คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าดัชนีความต้องการจำเป็น (PNImodified) ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพปัจจุบันของการบริหารวิชาการโรงเรียนประถมศึกษาตามแนวคิดทักษะภาวะผู้นำในอนาคต โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อจำแนกตามการบริหารวิชาการ พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการจัดการเรียนการสอน รองลงมาคือ ด้านการวัดและประเมินผล และ ด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ตามลำดับ เมื่อจำแนกตามทักษะภาวะผู้นำในอนาคต พบว่า ทักษะที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคล รองลงมาคือ ทักษะการสร้างความมั่นใจในตนเอง และทักษะการปรับตัว ตามลำดับ ส่วนสภาพที่พึงประสงค์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อจำแนกตามการบริหารวิชาการ พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการวัดและประเมินผล รองลงมาคือ ด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา และด้านการจัดการเรียนการสอน ตามลำดับ เมื่อจำแนกตามทักษะภาวะผู้นำในอนาคต พบว่าทักษะที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคล รองลงมาคือ ทักษะการสร้างแรงบันดาลใจ และทักษะการสร้างนวัตกรรมบนพื้นฐานคุณธรรม จริยธรรม ตามลำดับ 2) ความต้องการจำเป็นในการพัฒนาการบริหารวิชาการโรงเรียนประถมศึกษาตามแนวคิดทักษะภาวะผู้นำในอนาคต จำแนกตามการบริหารวิชาการ พบว่า ความต้องการจำเป็นสูงสุด คือ การพัฒนาการวัดและประเมินผล (PNImodified = 0.127) รองลงมาคือ การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา (PNImodified = 0.117) และการพัฒนาการจัดการเรียนการสอน (PNImodified = 0.085) ตามลำดับ เมื่อจำแนกตามทักษะภาวะผู้นำในอนาคต พบว่า ความต้องการจำเป็นสูงสุด คือ การพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ (PNImodified = 0.140) รองลงมาคือ การพัฒนาทักษะการวางแผนเชิงกลยุทธ์ (PNImodified = 0.137) และการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ (PNImodified = 0.116) ตามลำดับ
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เจ้าของบทความมิได้คัดลอก หรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ใด หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าวิธีใด หรือการฟ้องร้องไม่ว่ากรณีใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ กองบรรณาธิการวารสารศึกษาศาสตร์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ให้เป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความที่จะดำเนินการ
เอกสารอ้างอิง
Bennis, W. (1991). Learning some basic truisms about leadership. National Forum, 71(1), 12-15.
Charoenwongsak, K. (2007). “Leadership” can be created in your youth. Retrieved 16 August 2019, from http://www.kriengsak.com [in Thai]
Deloitte. (2016). the new organization: different by design. Retrieved May 3, 2019, from https://www2.deloitte.com/content/dam/Deloitte/global/Documents/HumanCapital/gx-dup-global-human-capital-trends-2016.pdf
Iordanoglou, D. (2018). Future trends in leadership development practices and the crucial leadership skills. Journal of Leadership, Accountability and Ethics, 15(2), 118 - 129.
Kraivin, P. (2019). Private school management strategy for secondary education level according to the concept of developing students to have leadership fluently (Doctoral Dissertation). Bangkok: Chulalongkorn University. [in Thai]
Malithong, K. (2000). Educational technology and innovation (2nd ed.). Bangkok: Arun Printing. [in Thai]
Ministry of Education. (2014). Guidelines for measuring and evaluating learning outcomes according to the Basic Education Core Curriculum BE. 2551 (4th ed.). Bangkok: Publishing House of Agricultural Cooperatives Association of Thailand. [in Thai]
Ochsner, K. (2015). Pick stars early and transition them better. Paper presented at the 2015 NeuroLeadership Summit, New York.
Office of Academic and Educational Standards. (2010). Guidelines for organizing student development activities according to the curriculum Center of Basic Education 2008 (2nd ed.). Bangkok: Publishing House of Agricultural Cooperatives of Thailand. [in Thai]
Office of the Basic Education Commission. (2019). Organization structure. Retrieved 6 April 2020, from https://www.obec.go.th/about/organizational structure. [in Thai]
Petrie, N. (2014). Future trends in leadership development. Center for Creative Leadership white paper.
Phuprasert, K. (2001). Academic administration in educational institutions. Bangkok: Tips Publication. [in Thai]
Prididilok. K. (1989). Administration and supervision of preliminary studies. Bangkok: Aksara Pipat. [in Thai]
Suwatthanaphong, A. (2015). Academic management strategies for enhancing cognitive thinking skills criticism of secondary school students (Doctoral dissertation). Bangkok: Chulalongkorn University. [in Thai]
Wehachat, R. (2007). Academic administration of basic education institutions. Songkhla: Thaksin University Book Center. [in Thai]
Wongwanich, S. (2015). Needs evaluation research necessary (3rd ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Press. [in Thai]
Wonganutarot P. (1992). Academic administration. Bangkok: Bangkok Auxiliary Media Center. [in Thai]
Yamane, T. (1973). Statistics an introduction analysis. New York: Harper & Row.
