ผลการใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้น รายวิชาการงานอาชีพ 1 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนก่อนและหลัง จากได้รับการจัดการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้น วิชาการงานอาชีพ 1 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังจากได้รับการจัดการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้น และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จำนวน 30 คน โดยวิธีสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้น รายวิชาการงานอาชีพ 1 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 8 แผน 19 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ แบบทดสอบวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ เป็นแบบทดสอบฉบับเดียวกัน แบ่งออกเป็น 2 ตอน คือตอนที่ 1 เป็นแบบทดสอบแบบปรนัยวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ตอนที่ 2 เป็นแบบทดสอบแบบอัตนัยวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ จำนวน 2 ข้อ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้น เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 18 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลครั้งนี้ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t–test (Dependent Samples ผลการวิจัย พบว่า
1. ทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนหลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้น วิชาการงานอาชีพ 1 สูงกว่าก่อนได้รับการจัดการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้น สูงกว่าก่อนได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้น วิชาการงานอาชีพ 1 โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 4.25)
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เจ้าของบทความมิได้คัดลอก หรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ใด หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าวิธีใด หรือการฟ้องร้องไม่ว่ากรณีใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ กองบรรณาธิการวารสารศึกษาศาสตร์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ให้เป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความที่จะดำเนินการ
เอกสารอ้างอิง
Bloom, B. S. (1976). Human Characteristics and School Learning. New York: McGraw-HillBook Company.
Good, C. V. (1973). Dictionary of education. New York: Mc Graw-Hill.
Kulnatsiri, P. (2009). Substances that should be added and should be reduced, and ideas for organizing mathematics activities in The Reform Era. Bangkok: Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology.
Meesri, R. (2011). Developing a series of learning activities that promote analytical thinking and interactive learning skills, biology and the environment for sixth grade students. Mae Hong Son: Rat Pracha Nukhro 22 School.
Ministry of Education. (2008). Basic Education Core Curriculum B.E. 2008. Bangkok: Teachers Council Printing House.
Panich, W. (2012). Methods of learning for students in the 21st century. Bangkok: Sodsri-Saritwong Foundation.
Poonakorn, P. (2012). Effects of using the five-step model on critical thinking of fifth grade students. Bangkok: Chulalongkorn University.
Saiyot, L., & Saiyot, A. (1996). Techniques for measuring learning outcomes. Bangkok: Srinakharinwirot University Prasarnmit.
Sinlarat, P. (2014). Grow according to the potential towards the 21st century of education. Bangkok: Chulalongkorn University Printing House.
Siriwat, L. (2006). Psychology in everyday life. Bangkok: Odeon Store.
Trirat, S. (2003). Teaching to promote critical thinking skills. Journal Education, 1(1), 26-37.
Vygotsky, L. S. (1996). Obras Escogidas. Tomo IV. Madri: Visor.