A Historical Learning Process for Learning Resources Management: A Case Study of Saikhoa Village Wangsapung District Loei Province
Main Article Content
Abstract
The study aims to explore the body of knowledge of the local history and investigate the way of local learning management of Sai Khao Village in Sai Khao sub-district, Wansapung district, Loei, Thailand. Data were collected by means of interview and group discussion as oral history method and obtained from local people as well as other relating documents. The research instruments were interview questions, discussion topics, and community mapping. The data then were analyzed and presented in descriptive style. The study shows that Sai Khao Village has developed its conservative urbanization since the 19th B.E. as an important fortress of the Kingdom of Lanchang. However, after the 23rd B.E. Sai Khao was declining and finally became a village when Lanchang collapsed in 1727. In the modern world Sai Khao changed as the economic and social changes in the “Development Era” in 1957. This was a result of the development of transportation and infrastructure which caused community expansion and migration from rural areas towards urban ones. In 1997 the changes became even more intense since the locals have had more ways to make money such as working in a factory, selling lottery, and doing commercial agriculture. All of these made changes in rural lives. Other than that the study finds that the learning resource management should create the body of knowledge of Sai khao local history as an open space for various groups to be a part of their own community “identity”. This will encourage the people to recognize the values of their history and culture before fostering and conveying this knowledge to the community through formal education and private learning.
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลที่ตีพิมพ์ลงในวารสารมนุษย์กับสังคม ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบโดยตรงของผู้เขียนซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารมนุษย์กับสังคม ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อต้องอ้างอิงวาสาร
References
กรมศิลปากร. (2530). จดหมายเหตุรัชกาลที่ 3 เล่ม 3. รัฐบาลในสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จดพิมพ์ทูลเกล้าฯ ถวายสนองพระมหากรุณาธิคุณในมหามงคลเฉลิมพระเกียรติวันพระบรมราชสมภพ ครบ ๒๐๐ ปี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว.
กรมศิลปากร. (2515). คำให้การชาวกรุงเก่า คำให้การขุนหลวงหาวัด และพระราชพงศาวดารกรุงเก่าฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์. พิมพ์ครั้งที่ 2. พระนคร: คลังวิทยา.
กรมศิลปากร. (2545). “นิทานเรื่องขุนบรมราชาพงศาวดารเมืองลานช้าง”. ประชุมพงศาวดารฉบับการจนาภิเษก เล่ม 9. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร.
กรมศิลปากร. (2545). “พงศาวดารล้านช้าง: ตามถ้อยคำในฉบับเดิม”.ประชุมพงศาวดารฉบับการจนาภิเษก เล่ม 9.กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร.
กรมศิลปากร. (2544). วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์เอกลักษณ์และภูมิปัญญาจังหวัดเลย.กรงุเทพฯ: กรมศิลปากร.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2544). การพัฒนาห้องสมุดโรงเรียนให้เป็นแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนและท้องถิ่นเพื่อจัดกระบวนการเรียนรู้.กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
ฉลอง สุนทรวาณิชย์. (2529). “สถานะการศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น”. เศรษฐศาสตร์การเมือง, 5(3): 138-154.
เติม วิพาคย์พจนกิจ. (2530). ประวัติศาสตร์อีสาน.กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ธงชัย วินิจจกูล. (2548). “การเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของอดีต : ประวัติศาสตร์ใหม่ในประเทศไทย หลัง 14 ตุลาคม”. สถานภาพไทยศึกษา: การสำรวจเชิงวิพากษ์, กรุงเทพฯ: ซิลค์เวอร์มบุคส์.
ธีระวัฒน์ แสนคำ. (2558).“เมืองซายขาว:ชุมชนโบราณสำคัญของอาณาจักรล้านช้างในลุ่มแม่น้ำเลย”. วารสารพื้นถิ่นโขง ชีมูล, 1(2): 67-106.
โปรยทอง แซ่แต้. (2545). การใช้แหล่งวิทยาการชุมชนเพื่อการเรียนการสอนสังคมศึกษาโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษา จังหวัดลำพูน.เชียงใหม่: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 (2542, 19 สิงหาคม 2542). ราชกิจานุเบกษา. เล่ม 116 ตอนที่ 74 ก. หน้า 1-23.
ยงยุทธ ชูแว่น. (2551). ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นไทย. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.).
รวิพร มูณีวรรณ. (2548). การใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนประกอบการจัดการเรียนรู้ของครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1. นครศรีธรรมราช: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนครศรีธรรมราช.
วชิรวรรณ เทียมทัน.(2545). วิถีชีวิตคนขายล็อตเตอรี่: กรณีศึกษาอำเภอวังสะพุงจังหวัดเลย.วิทยานิพนธ์ศิลป ศาสตรบัณฑิต สาขาไทยศึกษาเพื่อการพัฒนา.
สิลา วีระวงศ์. (2540). ประวัติศาสตร์ลาว. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: มติชน.
แสงจันทร์ อินทนนท์. (2532). แหล่งความรู้สู่การพัฒนา.กรุงเทพฯ : หน่วยศึกษานิเทศก์ กรมการศึกษานอกโรงเรียน.
สำนักศึกษาธิการจังหวัดเลย. (2543). ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจังหวัดเลย. เลย: เมืองเลยการพิมพ์.
การสัมภาษณ์
กองไล ป้องกัน. (11 มีนาคม 2560). สัมภาษณ์. ราษฎร. ที่บ้านเลขที่ 85 หมู่ที่6 บ้านทรายขาวกลาง ตำบลทรายขาว อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย
คำหยาด บรรพลา. (12 มีนาคม 2560). สัมภาษณ์. ราษฎร. ที่บ้านเลขที่ 80 หมู่ที่ 5 บ้านทรายขาวใน ตำบลทรายขาว อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย
ทองคิด พทธซาคำ. สัมภาษณ์. (15 มิถุนายน 2559). ข้าราชการครู. ที่บ้านเลขที่ 70 หมู่ที่ 6 บ้านทรายขาวกลาง ตำบลทรายขาว อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย
พวงจันทร์ คำภา. (11 มีนาคม 2560). สัมภาษณ์. ราษฎร. ที่บ้านเลขที่ 31 หมู่ที่ 5 บ้านทรายขาวใน ตำบลทรายขาว อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย
อำพร มีมะจำ. (11 มีนาคม 2560). สัมภาษณ์. อดีตผู้ใหญ่บ้าน. ที่บ้านเลขที่ 63 หมู่ที่ 5 บ้านทรายขาวใน ตำบลทรายขาว อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย