การศึกษาพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่มีผลต่อการรับรู้ คำหลายความหมายในภาษาไทยของนักศึกษาจีนที่เรียนสาขาวิชาภาษาไทย ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงประเทศจีน
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่มีผลต่อการรับรู้คำหลายความหมายในภาษาไทยของนักศึกษาจีนที่เรียนสาขาวิชาภาษาไทยในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ใช้วิธีวิจัยเชิงผสมผสาน โดยเก็บข้อมูลจากนักศึกษาจีนในระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 3-4 จำนวน 108 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้การวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ทดสอบสมมติฐาน คือ การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า ประเภทของสื่อสังคมออนไลน์ที่นักศึกษาจีนใช้มากที่สุดคือ ติ๊กต็อก (TikTok) ประเภทของแพลตฟอร์มที่ใช้มากที่สุดคือ เว็บไซต์กูเกิล (Google) ประเภทของสื่อออนไลน์ไทยที่ใช้เพื่อ การเรียนและพัฒนาทักษะภาษาไทยมากที่สุดคือ ละคร โดยระยะเวลาที่เข้าใช้มากที่สุดคือ 1 ชั่วโมง-น้อยกว่า 2 ชั่วโมง ส่วนความถี่ในการใช้แพลตฟอร์มและสื่อสังคมออนไลน์ไทยในแต่ละสัปดาห์ พบว่า นักศึกษาจีนส่วนใหญ่ไม่เคยใช้ ทำให้ศักยภาพของสื่อในการถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับคำหลายความหมายให้กับผู้เรียนชาวจีนยังไม่สามารถใช้งานได้เต็มที่ ปัจจัยด้านชาติพันธุ์ไม่มีผลต่อความถี่ในการใช้แพลตฟอร์มและการรับชมสื่อออนไลน์ไทย โดยไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ในขณะที่ปัจจัยด้านชั้นปีการศึกษากลับมีผลต่อความถี่ในการรับชมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (<0.05) รูปแบบพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการเรียนและพัฒนาทักษะภาษาไทยของนักศึกษาจีนมีพฤติกรรมการ “เสพ” หรือ “รับเข้า” มากกว่าการ “ใช้” หรือ “ส่งออก” ความคิดเห็นของนักศึกษาจีนเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่มีผลต่อการรับรู้คำหลายความหมายในภาษาไทยอยู่ในระดับ ปานกลาง โดยหัวข้อที่นักศึกษาเห็นด้วยมากที่สุดคือ การใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นประจำทำให้รู้จักคำหลายความหมายในภาษาไทยมากขึ้น และเห็นตัวอย่างการใช้คำหลายความหมายในประโยคต่าง ๆ
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลที่ตีพิมพ์ลงในวารสารมนุษย์กับสังคม ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบโดยตรงของผู้เขียนซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารมนุษย์กับสังคม ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารมนุษย์กับสังคมก่อน
References
จรัสศรี จิรภาส. (2562). “ศึกษาไทย” และ “ไทยศึกษา” ในประเทศจีน. วารสารภาษาและวัฒนธรรม, 38(2), 94-118.
เฉิน ซงหลิง และ เพ็ญพิสุทธิ์ สีกาแก้ว. (2022). ยุทธศาสตร์ BRI กันนโยบายการพัฒนาบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาไทยในประเทศจีน. Dhurakij Pundit University (DPU). https://www.dpu.ac.th/dpurdi/analysis/32.
ทรรศนีย์ คีรีศรี และ สมิหลา คีรีศรี. (2562). รายงานการวิจัยพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของนักศึกษาระดับปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยสงขลา. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย. https://www.repository.rmutsv.ac.th/bitstream/handle/123456789/3383/FullText.pdf?sequence=1&isAllowed=y
บุปผา เมฆศรีทองคำ และ ขจรจิต บุนนาค. (2556). รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง พฤติกรรมการบริโภคข่าวของคนต่างวัยในสังคมไทย. สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สถาบันอิศรา และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.). https://www.presscouncil.or.th/wp-content/uploads/2014/06/vijaibufpha1.pdf
รุ่งทิพย์ รัตนภานุศร และคณะ. (2549). การมีหลายความหมายของคำกริยา เห็น ในภาษาไทย. วารสารวิชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 4(1), 136-157.
รุ่งฤดี แผลงศร. (2554). การกำหนดคำศัพท์พื้นฐานภาษาไทยสำหรับผู้เรียนชาวต่างประเทศระดับต้น. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 2(2), 165-188.
โรสลีน่า สุมาลี. (2562). การใช้สื่อสังคมออนไลน์ของนักเรียนที่มีความสามารถด้านการพูดภาษาอังกฤษระดับสูงและปัจจัยที่ส่งเสริมความสามารถด้านการพูด. [วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
วศิน สุขสมบูรณ์วงศ์. (2563). การศึกษาความเข้าใจคำอุปลักษณ์รสชาติของอาหารในภาษาจีนของนักศึกษาสาขาวิชาภาษาจีน มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม. วารสารวิชาการคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 11(1), 61-73.
โสมรวี สมเพชร. (2563). การขยายความหมายของคําว่า “กัด” ในภาษาไทย: การศึกษาตามแนวอรรถศาสตร์ปริชาน. วารสารภาษาและวรรณคดีไทย, 37(2), 1-36.
อัมพร จิรัฐติกร และคณะ. (2562). รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการการบริโภคละครโทรทัศน์ไทยผ่านเว็บไซด์ในกลุ่มประเทศอาเซียนและจีน: กรณีศึกษาประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และจีน. สํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกว.). https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:165645#
Chen, F. (2011). The research on the spreading of Thai drama in China. [Unpublished master’s thesis]. Chongqing University.
Chen, Y. (2562). สภาพการเรียนภาษาไทยของนักศึกษาชาวจีน สาขาวิชาภาษาไทย ระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัย ณ มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน. [วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ]. DSpace at Srinakharinwirot University. http://ir-ithesis.swu.ac.th/dspace/bitstream/123456789/465/1/gs581110011.pdf
Jirattikorn, A. (2023). Carnivalesque communities: Thai TV dramas and the Chinese censorship. INTER-ASIA CULTURAL STUDIES, 24(5), 776-792.
Sikakaew, P., Thamsatitsuk, K., Mo, L. F., Huang, X. C., & Chen, X. L. (2022). The tendency analysis
of Thai language research in China during 2013-2020: A study on CNKI database. In DPU International Conference on Business, Innovation and Social Sciences 2022 (pp. 166-175). DOI Foundation. https://doi.org/10.29754/caicictbs.202205.0017.
Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. Harper and Row Publications.