คำซ้อนในภาษาไทยถิ่นเหนือ
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความคำซ้อนในภาษาไทยถิ่นเหนือ มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาโครงสร้างและความหมายของคำซ้อนในภาษาถิ่นเหนือ 8 จังหวัดในภาคเหนือ ที่ใช้ภาษาพื้นเมืองเป็นภาษาพูดในชีวิตประจำวัน ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน ผลการศึกษาพบว่า โครงสร้างของคำซ้อนในภาษาไทยถิ่นเหนือ มี3 ประเภท คือ คำซ้อน 2 พยางค์ คำซ้อน 4 พยางค์ และคำซ้อนมากกว่า 4 พยางค์ ความหมายของคำซ้อนในภาษาถิ่นเหนือ มี 3 ประเภท ได้แก่ ซ้อนแล้วความหมายปรากฏอยู่
ที่หน่วยคำต้นหรือหน่วยคำท้ายเพียงหน่วยคำใดหน่วยคำหนึ่ง อีกหน่วยคำหนึ่งไม่มีความหมาย เป็นการซ้อนเพื่อเสียง ซ้อนแล้วความหมายปรากฏทั้ง 2 หน่วยคำ และซ้อนแล้วความหมายปรากฏเด่นอยู่ที่หน่วยคำใดหน่วยคำหนึ่ง อีกหน่วยคำหนึ่งช่วยเน้นความหมาย
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลที่ตีพิมพ์ลงในวารสารมนุษย์กับสังคม ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบโดยตรงของผู้เขียนซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารมนุษย์กับสังคม ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารมนุษย์กับสังคมก่อน
เอกสารอ้างอิง
กรรณิการ์ วิมลเกษม. (2549). ภาษาไทยถิ่นเหนือ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: บริษัทธรรมสาร จำกัด.
นภดล จันทร์เพ็ญ. (2557). หลักการใช้ภาษาไทย. กรุงเทพฯ: เจเนซิส มีเดียคอมจำกัด.
ประพิณ มโนมัยวิบูลย์. (2547). ภาษาเทศในภาษาไทย. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พูนพงษ์ งามเกษม. (2549). รายงานการวิจัยเรื่อง ความหมายของคำซ้อน. พิษณุโลก:ภาควิชาภาษาและคติชนวิทยา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร.
วิเชียร เกษประทุม. (2557). หลักภาษาไทย. กรุงเทพฯ: พ.ศ. พัฒนา จำกัด.
สุจิตรา จำนงอุดม. (2556). การใช้คำซ้อนสี่หน่วยในวัจนลีลา. วารสารธรรมศาสตร์, 32(1),131-141.
อนุมานราชธน, พระยา. (2522). นิรุกติศาสตร์. กรุงเทพฯ: คลังวิทยา.
อัญชลี สิงห์น้อย. (2551). คำกริยาประสมในภาษาไทย: หมวดหมู่ที่ปรับเปลี่ยน ทับซ้อน
และสับสน. ภาษาและวัฒนธรรม, 27(2), 23-40.