การพัฒนาทักษะการออกเสียงที่มีปัญหาของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายโดยวิธีธรรมชาติ -
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาแนวการสอนโดยแนวคิดวิธีธรรมชาติว่าสามารถช่วยทักษะการออกเสียงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในการออกเสียงในเสียงที่มีปัญหาได้หรือไม่ และ 2) ศึกษาแนวการสอนโดยใช้แนวคิดวิธีธรรมชาติว่าช่วยทักษะการออกเสียงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในการออกเสียงในเสียงที่มีปัญหาได้อย่างไร
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ศึกษาในครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในโรงเรียนสังกัดเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น จำนวนทั้งสิ้น 8 คน โดยกลุ่มตัวอย่างเหล่านี้ คือ นักเรียนผู้ที่มีปัญหาการออกเสียงมากที่สุด เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบทดสอบการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษก่อนเรียนและหลังเรียน แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างและอนุทินการเรียนรู้ ทั้งนี้ แผนการเรียนการสอนจำนวน 6 แผนถูกออกแบบภายใต้แนวคิดการสอนโดยวิธีธรรมชาติร่วมกับการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (action research) อันประกอบด้วยวิธีการสอนต่างๆ ทั้งหมด 6 วิธี อันประกอบด้วย การใช้บทความ เพลง ภาพยนตร์ เกม ภาระงาน และบทสนทนา วิธีการสอนทั้ง 6 วิธีนี้ประกอบไปด้วยการนำเสียงที่มีปัญหา นั่นก็คือ เสียงท้ายที่ออกเสียงด้วย /d/, /t/ และ /ɪd/ มาใช้ในกิจกรรมต่างๆ ข้อมูลที่ได้จะถูกนำมาวิเคราะห์โดยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า 1) คะแนนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในการอ่านออกเสียงจากแบบทดสอบการอ่านออกเสียงหลังเรียนสูงขึ้น หลังจากนักเรียนมีการเรียนโดยใช้แนวคิดวิธีธรรมชาติ และ 2) การสอนโดยแนวคิดวิธีธรรมชาติได้รับการยืนยันว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการช่วยการพัฒนาทักษะการออกเสียงภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย การศึกษาในครั้งนี้ยังชี้ให้เห็นถึงนัยยะของการวิจัยทางการสอนสำหรับครูผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะการออกเสียงของนักเรียน
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลที่ตีพิมพ์ลงในวารสารมนุษย์กับสังคม ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบโดยตรงของผู้เขียนซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารมนุษย์กับสังคม ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารมนุษย์กับสังคมก่อน
เอกสารอ้างอิง
Dewi, R.K. (2011). Improving students’ speaking skill through dialogue. Sebelas Maret University.
Duran, E. (1993). Effective Communication Programming for Language Minority Students with Severe Disabilities. 134-145.
Hidayatullah, M.S. (2018). Improving Students’ Pronunciation through Western Movie Media (A classroom Action Research at 4th semester in English Education of IAIN Sultan Amai Gorontalo). Journal Al-Lisan, 3(1), 93-111.
Khaghaninejad, M.S., & Maleki, A. (2015). The Effect of Explicit Pronunciation Instruction on Listening Comprehension: Evidence from Iranian English Learners. Theory and Practice in Language Studies, 5(6), 1249-1256.
Krashen, S.D. (1982). Principles and practice in second language acquisition. Oxford: Pergamon Press.
Krashen, S.D., & Terrell, T.D. (1995). The Natural Approach: Language acquisition in the classroom. London: Prentice Hall Europe.
Kwandee, S. & Sawaddikun, S. (2012). Building up Awareness of Pronunciation and Connected Speech for the Improvement of Thai Students Accent when Speaking English. [Online]. Available from: http://docplayer.net/38074180-Building-up-awareness-of-pronunciation-and-connected-speech-for-the-improvement-of-thai-students-accent-when-speaking-english.html. [Retrieved May28, 2019]
Lucarevschi, C.R. (2018). The role of storytelling in the development of pronunciation of Brazilian learners of English as a foreign language. University of Victoria.
Masruddin Stain, P. (2013). The Students Interest towards the Use of Natural Approach in Teaching Speaking. IDEAS: Journal on English Language Teaching and Learning, Linguistics and Literature, [Online]. 1(2), 83-102. Retrieved December 2, 2018 from, https://doi.org/10.24256/ideas.v1i2.169.
Ministry of Education. (2009). Basic education core curriculum B.E. 2551 (A.D. 2008): Learning area of foreign languages. Bangkok: Kuruspa.
Morley, J. (1998). Trippingly on the tongue: Putting serious speech/ pronunciation instruction back in the TESOL equation. ESL Magazine, [Online]. 1(15), 13-20. Retrieved February 28, 2018, from https://www.academia.edu/28566163/.
Narksompong, J. (2007). A study of Thai Phonological Features that Cause Pronunciation Problems for Thai People. Thammasat University.
Niamthet, T. (2016). A Survey of Awareness towards English Pronunciation among Thai International Workers in Exhibition Services. Thammasat University.
Nguyen, T.H. (2015). Using games to improve pronunciation of the second year non-English major students at Hanoi University of Business and technology. World of Science Pedagogy and Psychology, 2, 1-9.
Phintuyothin, P. (2011). The use of English Songs to Improve the Pronunciation of Problematic English Consonant Sounds for Thai Learners. Chulalongkorn University.
Rafiq Al Qhozali, M.A. (2017). Improving Students’ Speaking Skills through Storytelling Activity in Grade VIII of SMP Islam Terpadu Salman Al Farisi Yogyakarta (Yogyakarta State University). [Online]. Retrieved April 27, 2019, from http://eprints.uny.ac.id/17185/1/Skripsi Lia.pdf%09.
Sam, P. (2016). Natural Approach of Teaching English Language on a Flipped Classroom Platform to Tertiary Level Engineering Learners. International Journal of Educational Sciences, [Online]. 14(1), 13-18. Retrieved April 27, 2019, from doi.org/10.1080/09751122.2016.11890474.
Sookyossri, S. (1999). Use of Multimedia to Develop English Listening Skills of Prathom Suksa 3 Students. Chaingmai University.
Supeno. (2018). Using songs to improve students’ pronunciation. TEFLIN International Conference, 65(1), 339-346.
