ศึกษาวิเคราะห์หลักการอยู่ร่วมกันของสังคมพหุวัฒนธรรมในประเทศไทย : กรณีศึกษาชุมชนชาวพุทธและมุสลิมในชุมชนวัดท่าการ้อง ตาบลบ้านป้อม อาเภอ พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

Main Article Content

พระมหายุทธนา นรเชฏฺโฐ
พระครูธรรมธรวรเดชา อคฺคเตโช
จุฑารัตน์ ทองอินจันทร์
มานิตา ชูช่วย

บทคัดย่อ

งานวิจัยเรื่องนี้ เป็นการวิเคราะห์หลักการอยู่ร่วมกันของคนในสังคมพหุวัฒนธรรมระหว่างชาวพุทธและมุสลิมในบริเวณชุมชนวัดท่าการ้อง ตาบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ ๑) เพื่อศึกษาแนวทางการอยู่ร่วมกันของชุมชนชาวพุทธและมุสลิมในชุมชนวัดท่าการ้อง ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๒) เพื่อวิเคราะห์แนวทางการอยู่ร่วมกันของชุมชนชาวพุทธและมุสลิมในชุมชนวัดท่าการ้อง ตำบลบ้านป้อม อาเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๓) เพื่อนาเสนอแนวทางในการอยู่ร่วมกันที่เหมาะสม ระหว่างชาวพุทธและมุสลิมในสังคมไทยปัจจุบัน
ผลการศึกษาพบว่า ประการแรก แนวทางการอยู่ร่วมกันของชาวพุทธและมุสลิม คือ ๑) เน้นความรัก ความเมตตาต่อกันความปรารถนาดีต่อกัน ๒) การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ด้วยการให้ ๓) การเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน ๔) การมีกิจกรรมร่วมกัน ๕) การเจรจาพูดคุยกัน ประการที่สอง แนวทางการอยู่ร่วมกัน สามารถบูรณาการระหว่างหลักการของศาสนาพุทธและอิสลาม ตามหลักการของศาสนาพุทธ เน้นความเมตตากรุณาต่อกัน (เมตตาธรรม) การเคารพในสิทธิของกันและกัน (คารวธรรม) การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน (สังคหธรรม) ความสามัคคี (สามัคคีธรรม) ความอดทนอดกลั้นต่อความแตกต่างระหว่างกัน (ขันติธรรม) ส่วนหลักการของศาสนาอิสลาม ศรัทธา และการปฏิบัติตามศรัทธา ๕ ประการ ประการที่สาม แนวทางที่เหมาะสมต่อการอยู่ร่วมกันในปัจจุบันและอนาคต สามารถดาเนินการใน ๒ ระดับ คือระดับปัจเจกบุคคล และระดับชุมชนหรือสังคม ในระดับปัจเจกบุคคลแต่ละคนต้องดาเนินตามหลักคาสอนในศาสนาของตนเองอย่างสมบูรณ์ ด้วยการประยุกต์เอาหลักการในศาสนาของตนเองมาปฏิบัติในชีวิตประจาวันของแต่ละคน ให้ถูกต้องเหมาะสมตามสถานภาพของตนเอง ส่วนในระดับชุมชนหรือสังคม จะต้องมีการประชุมร่วมกันอย่างสม่าเสมอ ด้วยความบริสุทธิ์จริงใจต่อกัน ปราศจากวาระซ่อนเร้น เพื่อจะได้มีโอกาสพบปะสนทนากัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นร่วมกัน ด้วยความปรารถนาดีต่อกัน ด้วยจิตสานึกรับผิดชอบต่อประเทศชาติ และประชาชนร่วมกัน

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
นรเชฏฺโฐ พ., อคฺคเตโช พ., ทองอินจันทร์ จ., & ชูช่วย ม. (2017). ศึกษาวิเคราะห์หลักการอยู่ร่วมกันของสังคมพหุวัฒนธรรมในประเทศไทย : กรณีศึกษาชุมชนชาวพุทธและมุสลิมในชุมชนวัดท่าการ้อง ตาบลบ้านป้อม อาเภอ พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วารสาร มจร พุทธศาสตร์ปริทรรศน์, 1(1), 40–61. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jmb/article/view/240108
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

เกรียงศักดิ์ บุญประสิทธิ์ และคณะ. ศาสนาในอาเซียน. กรมการศาสนา, กระทรวงศึกษาธิการ : โรงพิมพ์การศาสนา, ๒๕๕๗.

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. บรรยายสรุประจาปี ๒๕๕๘. กลุ่มงานข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสารสำนักงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา.

จิดาพร แสงนิล. “การศึกษาชุมชนมุสลิมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในสมัยอยุธยา (พุทธศตวรรษที่ ๑๙-๒๓)”. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาโบราณคดีประวัติศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๔๘.

มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๓๙.

แผนพัฒนาการเกษตรระดับตาบล. สำนักงานเกษตรอำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๒.

พรอุษา ประสงค์วรรณะ. “การศึกษาชุมชนต้นแบบต่างศาสนาที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติในแขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาสังคม. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๖.

สุไรยา วานิ. “การอยู่ร่วมกันของชุมชนในสังคมพหุวัฒนธรรม : กรณีศึกษาตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี”. วารสารการเมืองการปกครอง, ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๖- กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗.

สุกรี หลังปูเต๊ะ และคณะ. “สังคมพหุวัฒนธรรม : พลังทางสังคมสู่การพัฒนาสุขภาวะของคนใต้”.เอกสารประกอบการประชุมวิชา สุขภาวะทางปัญญาสร้างสุขคนใต้. กุมภาพันธ์๒๕๕๒.

ศิริจิต สุนันต๊ะ. “สถานการณ์โต้แย้งเรื่องพหุวัฒนธรรมในประเทศไทย”. รายงานการวิจัย. ในวารสารภาษาและวัฒนธรรมปีที่ ๓๒ ฉบับที่ ๑ (มกราคม-มิถุนายน ๒๕๕๖). สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย : มหาวิทยาลัยมหิดล, ๒๕๕๖.

เวลา กัลหโสภา. “การศึกษาแนวคิดเรื่องเมตตาในศาสนาพุทธกับอัรเราะห์มะฮ์ในศาสนาอิสลาม”.วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต ภาควิชาศาสนาและปรัชญา. คณะมนุษยศาสตร์ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ๒๕๕๖.

อธิปัตย์ คลี่สุนทร. “การศึกษาพหุวัฒนธรรม (Multicultural Education)”, ในสารานุกรมวิชาชีพครูเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา. กรุงเทพมหานคร: สานักงานเลขาธิการคุรุสภา, ๒๕๕๒.

อานันท์ กาญจนพันธ์. “พหุวัฒนธรรมในบริบทของการเปลี่ยนผ่านทางสังคมและวัฒนธรรม”.รายงานการวิจัย. ศูนย์ภูมิภาคทางสังคมศาสตร์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน.คณะสังคมศาสตร์ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ๒๕๕๑.

พระพิพัฒนศาสนกิจวิธาน (ประยูร สุทฺธิปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดท่าการ้อง, สัมภาษณ์เมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ณ กุฏิเจ้าอาวาสวัดท่าการ้อง ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต, “พหุวัฒนธรรมนิยม สิทธิชนกลุ่มน้อยและความสมานฉันท์”, แหล่งที่มา[ออนไลน์]. Www. Facebook.com/PhichinaBhuket [๕ สิงหาคม ๒๕๕๙].

“หลักศรัทธา ๖ ประการ”, แหล่งที่มา [ออนไลน์]. Www. Religionfacts.com/Islam/beliefs [เข้าถึงข้อมูล ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๙].

“หลักปฏิบัติตามศรัทธา ๕ ประการ”, แหล่งที่มา [ออนไลน์]. www. Religionfacts.com/Islam/practices [เข้าถึงข้อมูล ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๙].