การศึกษาเชิงสำรวจสิ่งแวดล้อมและแหล่งโบราณคดีในจังหวัดหนองคาย
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาแนวคิดเรื่องสิ่งแวดล้อมและแหล่งโบราณคดี 2) เพื่อศึกษาเชิงสำรวจสิ่งแวดล้อมและแหล่งโบราณคดีในจังหวัดหนองคาย 3) เพื่อศึกษาคุณค่าของสิ่งแวดล้อมและแหล่งโบราณคดีในจังหวัดหนองคาย เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการ เน้นการศึกษาวิเคราะห์ทั้งในเชิงพื้นที่และกลุ่มเป้าหมาย ถอดบทเรียนและการบูรณาการข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ การสังเกต และการปฏิบัติการร่วมกันโดยใช้กระบวนการตามวงจรเดมมิง (PDCA)
ผลการวิจัยพบว่า 1) แนวคิดทฤษฎีการสำรวจสิ่งแวดล้อมและแหล่งโบราณคดีนั้นใช้ทฤษฎีพัฒนาการของสังคมมนุษย์ในแง่ของการสร้างสรรค์สังคมเมืองและชุมชน ทฤษฎีการอนุรักษ์ และทฤษฎีการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์มาปรับใช้ในการศึกษาเพื่อให้เห็นถึงพัฒนาการของแหล่งโบราณคดีและแนวทางในการอนุรักษ์ 2) สิ่งแวดล้อมและแหล่งโบราณคดีในจังหวัดหนองคายจัดแบ่งตามยุคได้ 4 ยุค ได้แก่ (1) แหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์ ได้แก่ แหล่งโบราณคดีบ้านโคกคอน (2) แหล่งโบราณคดียุคทวารวดี พบกระจายอยู่ในเขตจังหวัดหนองคายหลายแห่ง (3) แหล่งโบราณคดีสมัยขอมหรือเขมรยุคสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พบมากที่ตำบลเวียงคุก (4) แหล่งโบราณคดีสมัยล้านช้าง พบอยู่เป็นจำนวนมากในตัวเมืองหนองคาย เช่น ที่ตำบลปะโค-เวียงคุก อำเภอเมืองหนองคาย อำเภอท่าบ่อและอำเภอโพนพิสัย ซึ่งแหล่งโบราณคดีเหล่านั้นถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ามากต่อคนในทั้งถิ่นทั้งในด้านประวัติศาสตร์ ด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น 3) คุณค่าจากการลงพื้นที่สำรวจนั้นทำให้ได้องค์ความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและแหล่งโบราณคดีในจังหวัดหนองคายในหลายๆ ด้าน เช่น ด้านประวัติศาสตร์ ด้านรูปแบบ ประเภทของพุทธศิลปกรรมแต่ละยุค ด้านการปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและแหล่งโบราณคดีในชุมชนเพิ่มมากยิ่งขึ้น
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
- บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร มจร พุทธศาสตร์ปริทรรศน์
- ข้อความใดๆ ที่ปรากฎในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ และข้อคิดเห็นนั้นไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสาร มจร พุทธศาสตร์ปริทรรศน์
เอกสารอ้างอิง
กรมศิลปากร. (2535). ร่างมาตรฐานและแนวปฏิบัติของกรมศิลปากรในการดำเนินการโบราณสถานโบราณคดี และพิพิธภัณฑ์. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร.
กนกวรรณ ชูชาญ. (2552). การจัดการความรู้ทางทรัพยากรวัฒนธรรมโดยผู้นำชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวชุมชน บ้านผาหมอน ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต วิทยาลัยนวัตกรรม: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
กาญจนา สุคัณธสิริกุล. (2555). การพัฒนาคุณภาพการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี.
ประกาย จิโรจน์กุล. (2538). ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพ. กรุงเทพฯ: ลดาวัลย์พริ้นติ้ง.
พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตโต). (2540). พระพุทธศาสนาในอาเซีย. กรุงเทพฯ: ธรรมสภา.
พระส่งเสริม แสงทอง. (2541). แนวคิดการจัดการสิ่งแวดล้อมตามหลักทางพุทธศาสนา. ปริญญาศิลปะศาสตร มหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพฯ: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มัณทนี ขมจินดา. (2539). มนุษย์กับธรรมชาติ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วิศรุต เนาวสุวรรณ์. (2546). แนวทางการปรับปรุงภูมิทัศน์เมืองประวัติศาสตร์ลพบุรี. วิทยานิพนธ์ สถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินทร. จารึกพ่อขุนรามคำแหง ด้านที่ 4. สืบค้น 12 กรกฎาคม 2562 จาก http://www. sac.or.th/databases/inscriptions/inscribe_image_detail.php?id=51.
สำนักงานจังหวัดหนองคายกลุมงานยุทธศาสตรและขอมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด. (2564). แผนพัฒนาจังหวัด พ.ศ. 2561 - 2565 (รอบปี พ.ศ. 2564). สืบค้น 15 สิงหาคม 2563 จาก http://202.28.118.8/nk2015/web/document/ index?id=20.
เสถียร โพธินันทะ. (2535). ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา. กรุงเทพฯ: มหามกุฏราชวิทยาลัย.