ศึกษาเปรียบเทียบหลักการเรียนรู้พระพุทธศาสนาของเยาวชนไทย ในโรงเรียนบ้านฝายนาแซงกับคริสตศาสนาในโรงเรียนเมตตาชนูปถัมภ์ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์

Main Article Content

พระจิรวัฒน์ อมรธมฺโม
พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี
แสวง นิลนามะ
บุญลือ มูลคลัง

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้วัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาหลักการเรียนรู้พระพุทธศาสนาในโรงเรียนบ้านฝายนาแซง 2) เพื่อศึกษาหลักการเรียนรู้ในคริสตศาสนาโรงเรียนเมตตาชนูปถัมภ์ และ 3) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบหลักการเรียนรู้พระพุทธศาสนาของเยาชนไทยในโรงเรียนบ้านฝายนาแซง กับหลักการเรียนรู้คริสตศาสนาในโรงเรียนเมตตาชนูปถัมภ์ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพแบบภาคสนาม ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 44 คน สนทนากลุ่ม 15 คน ใช้เครื่องมือแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูล และนำเสนอผลวิจัย เชิงพรรณนา
ผลวิจัยพบว่า 1) หลักการเรียนรู้พระพุทธศาสนาในโรงเรียนบ้านฝายนาแซง พบว่า เยาวชนได้ดำเนินตามหลักธรรมทำให้ตัวเองและสังคมรอบข้างมีการพัฒนาดีขึ้น หลักธรรมที่ช่วยทำให้ชีวิตของเยาวชนและสังคมในโรงเรียนมีความสงบสุข เจริญงอกงาม ได้แก่ ศีล สมาธิ และปัญญา 2) หลักการเรียนรู้คริสตศาสนาโรงเรียนเมตตาชนูปถัมภ์ พบว่า เยาวชนได้ประพฤติปฏิบัติคำสอน อย่างเคร่งครัดทำให้เกิดการพัฒนาตนเอง ได้เกิดการเรียนรู้ เกิดการปลูกฝังเยาวชนให้เป็นคนดีของครอบครัวและสังคม นักเรียนเป็นผู้มีความรัก ความเมตตา รู้จักเสียสละ และการให้อภัย วันคริสต์มาสมีการจัดกิจกรรมมอบของขวัญเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ต่อกัน ทุกวันอาทิตย์จะมีพิธีกรรมให้นักเรียนได้มีโอกาสบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม 3) เปรียบเทียบความเหมือนและแตกต่างกันในด้านการเรียนรู้พระพุทธศาสนาและคริสตศาสนาของเยาวชนในโรงเรียน พบว่า เยาวชนพระพุทธศาสนาได้ประพฤติปฏิบัติตามหลักคำสอน คือ การทำดี ละเว้นทำชั่ว เป็นหนทางแห่งความสุขความเจริญ มีความไม่ประมาทในการดำรงชีวิต ส่วนเยาวชนคริสตศาสนาเน้นความรัก มีความเชื่อในพระเป็นเจ้าผู้บริสุทธิ์ ปฏิบัติตามพระบัญญัติ 10 ประการอย่างเคร่งครัดและรู้จักให้ทานแก่คนยากไร้ สิ่งที่เหมือนกันของทั้งสองศาสนา คือ ความรัก ความสามัคคี การมีส่วนร่วมในทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามศาสนาของตน และมีจิตอาสาเพื่อผู้อื่น สิ่งที่แตกต่างกัน คือ พระพุทธศาสนาสอนให้ไม่ยึดติดใน ทุกสิ่งเพราะว่าทุกสิ่งไม่มีความยั่งยืน มีเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป ทุกอย่างล้วนเป็นอนัตตา ส่วนคริสตศาสนาสอนให้อธิฐานนึกถึงพระเจ้า ทำเพื่อ พระเจ้าเมื่อตายไปก็จะไปอยู่กับพระเจ้า ทั้ง 2 โรงเรียนมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพด้านสถาบันครอบครัว สถาบันศาสนา และสถาบันการศึกษาให้แก่เยาวชนในโรงเรียนด้วย

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
อมรธมฺโม พ. ., กิตฺติเมธี พ. ., นิลนามะ แ. ., & มูลคลัง บ. . (2023). ศึกษาเปรียบเทียบหลักการเรียนรู้พระพุทธศาสนาของเยาวชนไทย ในโรงเรียนบ้านฝายนาแซงกับคริสตศาสนาในโรงเรียนเมตตาชนูปถัมภ์ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์. วารสาร มจร พุทธศาสตร์ปริทรรศน์, 7(3). สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jmb/article/view/266482
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2546). แนวทางการดำเนินงานโรงเรียนวิถีพุทธ. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ร.ส.พ..

คณาจารย์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2552). มนุษย์กับสังคม. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต). (2555). พุทธธรรม ฉบับปรับขยาย. พิมพ์ครั้งที่ 32. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ผลิธัมม์.

พระมหาดวงเด่น ฐิตญาโณ. (2559). การบูรณาการองค์ความรู้หลักการ และวิถีปฏิบัติตามแนวทางศาสนา เพื่อการพัฒนากระบวนการสร้างสันติภาพ. รายงานการวิจัย สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระอภัย อภิชาโต (ชูขุนทด). (2554). การศึกษาหลักธรรมสำหรับพัฒนาพฤติกรรมของมนุษย์ในสังคมปัจจุบัน. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พิชญรัชต์ บุญช่วย. (2549). การศึกษากระบวนการสร้างภาวนา 4 โดยใช้หลักไตรสิกขา. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พุทธทาสภิกขุ. (2550). สารนิพนธ์พุทธทาสว่าด้วยสมานฉันท์และสันติวิธี. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์บริษัท ตถาตา พับลิเคชั่น จำกัด.

โสธรารักษ์ ชุนรักญาติ. (2546). การศึกษาการดำเนินงานการจัดหลักสูตรของโรงเรียนวิถีพุทธ. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.