Application of Development of Mental Health for Practitioners through Online Dhamma Gita
Main Article Content
Abstract
The purpose of this research are threefold: 1) to study the issues and mental health conditions of practitioners, 2) to investigate the process of developing mental health for practitioners through online Dhamma practice, and 3) to present developments in mental health for practitioners through online Dhamma practice. The research is a documentary analysis, analyzing content data and proposing guidelines for developing mental health for practitioners in society. Research findings reveal: 1) Principles and concepts regarding mental health and its development: Findings emphasize the importance of encouraging community mental health and holistic care, including exercise, meditation, and connection with nature, which have positive effects on both mental and physical health. 2) Four sublime states of mind: These are crucial moral principles for governing people, fostering a peaceful and happy society. Compassion, kindness, sympathetic joy, and equanimity, when present in society, contribute to peaceful coexistence and conflict resolution. Building a socially happy community based on these principles requires cooperation from all sectors of society. 3) Dhamma practice involves using music and musical instruments to convey Buddhist moral principles, promoting peace and respect for Buddhism. Online Dhamma practice facilitates effective learning and engagement with Buddhist teachings and practices, making them accessible and popular. 4) Development of mental health for practitioners through online Dhamma practice: Integrating the four sublime states of mind into daily life fosters happiness and balance. Online Dhamma practice helps cultivate compassion, mindfulness, sympathetic joy, and letting go, benefiting both practitioners and others. Practicing Dhamma online promotes mental resilience, mindfulness, and spreading compassion. It serves as a valuable tool for achieving life balance and everyday happiness.
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
- The published article is copyrighted by the MCU Journal of Buddhist Studies Review.
- Any text that appears in an article that has been published in a journal. It is the responsibility of the article author. And those comments are not considered the views and responsibilities of the editorial team of the MCU Buddhist Review Journal.
References
กวินวุฒิ กลั่นไพฑูรย์ และคณะ. (2554). ผลของการฟังดนตรีตามความชอบและดนตรีธรรมชาติต่อการลดความเครียดของนักศึกษา. รายงานวิจัย คณะศิลปะศาสตร์: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร.
ฉันทนา รวงผึ้ง. (2563). การสร้างความสุขอย่างยั่งยืนเชิงพุทธบูรณาการ. วารสารมหาจุฬาวิชาการ. 7(3),1-16.
ธิดารัตน์ เสรีขจรจารุ. (2564). แนวทางการพัฒนาการบริหารงานบุคคล ตามหลักพรหมวิหาร 4 โรงเรียนโครราชวิทยา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระครูวินัยธรอำนาจ (สวัสดี พลปญฺโญ), (2561). รูปแบบการพัฒนาสุขภาพจิตของผู้สูงอายุตามหลักธรรม: กรณีศึกษาตำบลบ้านปรือ อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์. วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์. 13(2), 81-84.
พระครูปลัดไพฑูรย์ เมธิโก (มหาบุญ). (2557). พรหมวิหาร: ธรรมแนวทางการแก้ไขความขัดแย้งของสังคมไทย, วารสารมหาวิทยาลัยราชนครินทร์ สาขามนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์. 1(2), 59-60.
พระนิพนธ์ ฐานวโร (คำภาสี). (2565). ศึกษาพรหมวิหาร 4 ในฐานะการเจริญภาวนาในคัมภีร์วิสุทธิมรรค, วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระมหาสุพรรณ สุภฺทโท และคณะ. (2565). การศึกษาหลักพุทธธรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตผู้สูงอายุ ตำบลห้วยราชา อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์. วารสารวิชาการ มจร บุรีรัมย์. 7(1), 234-238.
พระมหาสาคร ศรีดี. พุทธจริยธรรมกับดนตรี. สืบค้น 12 พฤศจิกายน 2566 จาก https://www.thaicadet .org/Buddhism/BuddhistEthics-Music.html
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มัลลิกา ภูมะธน และคณะ. ดนตรีในพระไตรปิฎกว่าด้วยการบำบัดบุญและการบรรลุธรรม. วารสารบัณฑิตแสงโคมคำ. 1(2), 8-9.
วาสนา พิทักษ์ธรรม และคณะ. (2559). การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขที่ยั่งยืนในสังคมพหุวัฒนธรรม กรณีศึกษา งค์การบริหารส่วนตำบลกระโด อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี. ใน การประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัยระดังชาติ ราชธานีวิชาการ ครั้งที่ 1 “สร้างเสริมสหวิทยาการ ผสมผสานวัฒนธรรมไทย ก้าวอย่างมั่นใจเข้าสู่ AC. อุบลราชธานี: มหาวิทยาลัยราชธานี.
ศศิรัศม์ วีระไวทยะ. (2554). การนำเสนอยุทธศาสตร์การสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างสันติวัฒนธรรม โดยใช้สถานศึกษาเป็นฐาน”, วิทยานิพนธ์คุรุศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต). (2540). ธรรมะกับการทำงาน, พิมพ์ครั้งที่ 12. กรุงเทพฯ: บริษัทสหธรรมิก จำกัด.
อรุณี มิ่งประเสริฐ. (2557). การศึกษาสุขภาพจิตและความเครียดของนักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยารังสิต. วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 40(2), 211-227.
อุบล จ๋วงพานิช และคณะ. (2012). ผลของดนตรีบำบัดต่อความวิตกกังวลและความปวดในผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด. วารสารสมาคมพยาบาลฯ สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. 30(1), 49-52.
Duangloy, D. et al. (2016). Music in Tipiṭaka for Therapy, Marit Making and Enlightenment. Journal of SaengKhomKham Buddhist Studies. 1(2), 119-134.