การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบสถานการณ์จำลอง เรื่องหน้าที่ชาวพุทธ และมารยาทชาวพุทธ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3 โรงเรียนอินทร์บุรี

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบสถานการณ์จำลอง เรื่องหน้าที่ชาวพุทธและมารยาทชาวพุทธ 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังโดยใช้รูปแบบสถานการณ์จำลอง เรื่องหน้าที่ชาวพุทธและมารยาทชาวพุทธ 3) ศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบสถานการณ์จำลอง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1/3 โรงเรียนอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 1 ห้องเรียน รวมทั้งสิ้น 30 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยของการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบสถานการณ์จำลอง  15 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 30 ข้อ และแบบวัดความพึงพอใจต่อกิจกรรมการเรียนรู้  15 ข้อ สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t แบบ Dependent  ผลการวิจัยพบว่า 1) การพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบสถานการณ์จำลอง พบว่า ได้แผนการจัดกิจกรรมจำนวน 15 แผน มีผลการประเมินความเหมาะสมจากผู้เชี่ยวชาญอยู่ระหว่าง 0.66-1.00 2) นักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบสถานการณ์จำลอง หลังเรียน (  =21.25, S.D. =0.85) สูงกว่าก่อนเรียน (  = 11.55, S.D. = 0.70) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ผลการวัดความพึงพอใจที่มีต่อการจัดกิจกกรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบสถานการณ์จำลองมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (  =4.53 , S.D. =0.63) แสดงให้เห็นว่า แผนการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสมมีผลต่อการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างมีนัยสำคัญ และนักเรียนมีความพึงพอใจในกิจกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก ผลการวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของการใช้กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบสถานการณ์จำลองที่สอดคล้องกับหลักอายตนะ 6 ซึ่งช่วยส่งเสริมการรับรู้และพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาของผู้เรียน โดยเชื่อมโยงการรับรู้จากทั้งภายในและภายนอกการปฏิบัติจริงในกิจกรรมเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในหลักธรรมและพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ