การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ ในรายวิชาประวัติศาสตร์ ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายมัธยม)
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้วัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น 2) เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ระดับชั้นมัธยมปีที่ 4 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม(ฝ่ายมัธยม) การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายมัธยม) จำนวน 40 คน ได้มาจากการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ แบบบันทึกการประชุมกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพและแบบสังเกตชั้นเรียน ผลการวิจัยพบว่า การสอนในรายวิชาประวัติศาสตร์นั้นผู้สอนใช้เทคนิคการบรรยายประกอบภาพจากอินเตอร์เน็ต ในโปรแกรม Power Point และสื่อการเรียนรู้จาก Youtube เนื้อหาในรายวิชาไม่ส่งเสริมต่อการคิดวิเคราะห์ แนวทางการแก้ไขคือ ใช้สื่อหรือภูมิสารสนเทศมาเป็นส่วนหนึ่งในการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ ประกอบไปด้วย 1) ขั้นวางแผน สร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพประวัติศาสตร์เป็นอาจารย์ในกลุ่มสาระสังคมศึกษาฯในโรงเรียนร่วมกับอาจารย์ภาควิชาภูมิสารสนเทศทำการออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ร่วมกัน 2) ขั้นปฏิบัติ ทำการสอนโดยนิสิตชั้นปีที่ 3 และชั้นปีที่ 4 ร่วมกับอาจารย์จากภาควิชาภูมิสารสนเทศและอาจารย์ประจำในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯในลักษณะ Team Teaching ในหัวข้อการประยุกต์ภูมิสารสนเทศในการศึกษาประวัติศาสตร์ 3) ขั้นสังเกต ผู้บริหาร อาจารย์ในกลุ่มสาระสังคมศึกษาฯ ร่วมสังเกตการเรียนรู้โดยเป็นส่วนหนึ่งในการจัดการเรียนรู้ในลักษณะการ Coaching กิจกรรมกลุ่มของผู้เรียน 4) ขั้นสะท้อนผล โดยการประชุมกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพและผู้บริหาร มีผลที่น่าสนใจคือ 1) การจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นด้วยสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ 2) ผู้เรียนมีความสุขกว่าการเรียนรู้แบบบรรยาย 3) การสอนในลักษณะ Team Teaching ทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันทั้งผู้เรียนและผู้สอน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
- บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร มจร พุทธศาสตร์ปริทรรศน์
- ข้อความใดๆ ที่ปรากฎในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ และข้อคิดเห็นนั้นไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสาร มจร พุทธศาสตร์ปริทรรศน์
เอกสารอ้างอิง
จิณหธาน์ อุปาทัง. (2551). การศึกษาการดำเนินงานนิเทศภายในของโรงเรียนที่ได้รับรองมาตรฐานการศึกษาสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กรุงเทพฯ. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
จิราวรรณ คุ้มพร้อม สำลีพันธ์. (2561). ผลการจัดการสอนแบบทีมต่อการสร้างจิตสำนึกในการจัดการขยะของนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษา อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี. วารสารนาคบุตรปริทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช. 10(6-9), 222-235.
เฉลิม นิติเขตต์ปรีชา. (2545). เทคนิควิธีการสอนประวัติศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช.
เพียงออ ฟุ้งเฟื่อง. (2552). รูปแบบการเรียนรู้การพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นโดยเครือข่ายการจัดการความรู้. วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยนเรศวร.
เยาวพา เดชะคุปต์. (2542). การบริหารและการนิเทศการศึกษาปฐมวัย. กรุงเทพฯ: เจ้าพระยาระบบการพิมพ์.
รัชนีกร หงส์พนัส. (2547). ครูสังคมศึกษากับการรังสรรค์ สาระการเรียนรู้ประวัติศาสตร์. สานปฏิรูป. 7(74), 113-115.
ลินดา เกณฑ์มา. (2558). การศึกษาสภาพและความต้องการในการจัดการเรียนการสอนวิชาศึกษาทั่วไปตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติในมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา. วารสารสารสนเทศ. 14(1-6), 69-81.
วรลักษณ์ ชูกำเนิด และเอกรินทร์ สังข์ทอง. (2557). โรงเรียนแห่งชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครู เพื่อการพัฒนาวิชาชีพครูที่เน้นผู้เรียนเป็นหัวใจสำคัญ. วารสารวิทยบริการมหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์. 25(1), 93-102.
วิจารณ์ พานิช. (2555). การเรียนรู้ครูเพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ: มูลนิธิสดศรีสฤษดิ์วงศ์.
วิรไท สันติประภพ. (2563). รับมืออย่างไรเมื่อมหาวิทยาลัยกำลังถูกดิสรัปต์. สืบค้น 20 มิถุนายน 2565 จากhttps://thaipublica.org/2020/11/veerathai-49/.
สมศักดิ์ ชูโต. (2527). การสอนวิชาประวัติศาสตร์ไทย. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2560). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553. สืบค้น 12 ธันวาคม 2563 จาก http://www.obec.go.th.
อัญญา บูชายันต์ และวนมพร พาหะนิชย์. (2563). การใช้ Google Earth ในการจัดการเรียนรู้ภูมิศาสตร์. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย. 2(2), 18-27.
Aksorncharoenthat. (2018). Geo-Literacy. Retrieved 20 January 2025 from https://www.facebook.com/Ak -sornACT/posts /1595744193844924.
Dufour, Eaker & Dufour. (2006). Learning by doing a handbook for professional learning communities at work. Bloomington. IN : Solution Tree.
Hord, S. M. (2010). Professional Learning Communities: Communities of Continuous Inquiry and Improvement. Southwest Educational Development Laboratory.
Jantra, K. (2018). Learning Management for Geo-literacy in Social Studies. Retrieved 19 December 2020, from http://academic. obec.go.th/images/mission/1524627007_d _1. pdf.
Kemmis, S. & R. McTaggart. (1988). The Action Research Planner. Victoria : Deakin University Press.
Perkins, N., et al. (2010). Place-based education and geographic information systems: Enhancing the spatial awareness of middle school students in maine. Journal of Geography. 109(5), 213-218.
Singh, S. S. B., et al. (2016). The effects of geography information system (gis) based teaching on underachieving students' mastery goal and achievement. Turkish Online Journal of Educational TechnologyTOJET. 15(4), 119-134.