การวิเคราะห์ความเชื่อและวิธีปฏิบัติต่อท้าวเวสวัณในสังคมไทย ตามคำสอนทางพระพุทธศาสนา

Main Article Content

ประยูร ป้อมสุวรรณ์
ชาติเมธี หงษา
วัชระ งามจิตรเจริญ

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาเรื่องท้าวเวสวัณตามคำสอนพระพุทธศาสนา 2) เพื่อศึกษาความเชื่อเรื่องท้าวเวสวัณในสังคมไทย และ 3) เพื่อวิเคราะห์ความเชื่อเรื่องท้าวเวสวัณในสังคมไทยตามคำสอนพระพุทธศาสนา เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ โดยรวบรวมข้อมูลจากพระไตรปิฎก อรรถกถา เอกสาร งานวิจัย และสื่อออนไลน์ และการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 5 รูป/คน ผลการวิจัยพบว่า ท้าวเวสวัณที่คนไทยนิยมเรียกว่า “ท้าวเวสสุวรรณ” ตามคำสอนพระพุทธศาสนา คือท้าวกุเวรผู้เป็นหนึ่งในท้าวมหาราชทั้ง 4 ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา มียักษ์เป็นบริวาร และเป็นท้าวจตุโลกบาล ปกครองดูแลโลกประจำทิศเหนือ คำว่า “เวสวัณ” เป็นชื่อตำแหน่ง แต่งตั้งโดยท้าวสักกเทวราช ท้าวเวสวัณเป็นเทวดาที่มีรูปงาม ไม่ใช่ยักษ์ที่มีรูปร่างดุร้ายน่ากลัว และเป็นพระโสดาบันซึ่งเป็นพระอริยบุคคลอันเป็นรัตนะประการหนึ่งในพระรัตนตรัย มีบทบาทในการคุ้มครองดูแลพระพุทธเจ้าและพระสาวก พร้อมทั้งมนุษย์ทั่วไป คอยสอดส่องดูแลพฤติกรรมของมนุษย์ทั้งที่เป็นบุญและเป็นบาปเพื่อรายงานต่อเทพในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ไม่มีวิธีปฏิบัติต่อท้าวเวสวัณโดยตรง ส่วนสังคมไทยเชื่อว่าท้าวเวสวัณมีสถานะเป็นยักษ์รูปร่างน่ากลัว เป็นพญายม เป็นพระเจ้าพิมพิสาร เป็นเทพแห่งความมั่งคั่งหรือเจ้าแห่งโชคลาภ และเป็นหัวหน้าของท้าวจตุโลกบาล ท้าวเวสวัณมี 3 บทบาทสำคัญ คือ บทบาทในฐานะโลกบาลหรือเทพผู้รักษาโลกด้านทิศเหนือ บทบาทในฐานะผู้พิทักษ์พระพุทธศาสนาและพุทธสถาน และบทบาทในฐานะเทพแห่งความมั่งคั่ง วิธีปฏิบัติต่อท้าวเวสวัณคือการกราบไหว้สักการบูชาเพื่อบนบานและขอพร การวิเคราะห์ความเชื่อเรื่องท้าวเวสวัณในสังคมไทยตามคำสอนพระพุทธศาสนา พบว่า มีความแตกต่างกันในเรื่องรูปร่างและลักษณะ รวมถึงบทบาท และวิธีปฏิบัติต่อท้าวเวสวัณในสังคมไทยเน้นการบูชาท้าวเวสวัณในฐานะเทพผู้ปกป้องคุ้มครองภัยและเทพผู้ประทานความสำเร็จและความมั่งคั่ง ในขณะที่ในคำสอนพระพุทธศาสนาไม่ได้กำหนดวิธีปฏิบัติต่อท้าวเวสวัณไว้โดยตรง แต่การบูชาท้าวเวสวัณด้วยการทำความดีตามหลักการพระพุทธศาสนาสอดคล้องกับหลักเทวตาพลี การยึดมั่นในไตรสรณคมน์และการพึ่งตนเอง

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ป้อมสุวรรณ์ ป., หงษา ช. ., & งามจิตรเจริญ ว. (2025). การวิเคราะห์ความเชื่อและวิธีปฏิบัติต่อท้าวเวสวัณในสังคมไทย ตามคำสอนทางพระพุทธศาสนา. วารสาร มจร พุทธศาสตร์ปริทรรศน์, 9(2), 54–68. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jmb/article/view/286579
ประเภทบทความ
บทความวิจัย
ประวัติผู้แต่ง

ชาติเมธี หงษา, คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร

ป.เอก สาขาวิชาบาลีพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยบานารัสฮินดู รัฐอุตรประเทศ อินเดีย

เอกสารอ้างอิง

กรมศิลปากร. (2527). จารึกสมัยสุโขทัย. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร

กิติยวดี ชาญประโคน. (2560). ท้าวเวสสุวัณในสังคมและวัฒนธรรมไทย. วารสารรามคำแหง ฉบับมนุษยศาสตร์. 36(2), 27-46.

คมชัดลึกออนไลน์. (2565). "ท้าวเวสสุวรรณ" แห่งวัดจุฬามณี ไม่ใช่มีแค่รูปยักษ์ แต่มีถึง 4 ปาง. สืบค้น 12 มิถุนายน 2567 จาก www.komchadluek.net/kom-lifestyle/515227

เฉิดฉันท์ รัตน์ปิยะภาภรณ์. (2531). การศึกษาคติความเชื่อและรูปแบบของ “ยักษ์” จากประติมากรรมที่พบในประเทศไทย. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ปริวัตร ศิระเกียรติสกุล และอรอุษา สุวรรณประเทศ. (2560). ท้าวเวสสุวัณคือใครในคัมภีร์ทางพุทธศาสนาและฮินดู. วารสารมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร. 14(3), 121-135.

พญาลิไทย. (2526). ไตรภูมิกถาหรือไตรภูมิพระร่วง พระราชนิพนธ์พระมหาธรรมราชาที่ 1 ฉบับตรวจสอบชำระใหม่. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร.

พระญาณธชะ. (2551). ปรมัตถทีปนี นาม สังคหมหาฎีกา. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระมหาประภาส แก้วสวรรค์. (2540). ยักษ์ในพระไตรปิฎก. วิทยานิพนธ์ปริญญาอักษรศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

พระยาสัจจาภิรมย์ (สรวง ศรีเพ็ญ). (2551). เทวกำเนิด. พิมพ์ครั้งที่ 17 (ฉบับสอบทานแก้ไข). กรุงเทพฯ: อมรินทร์.

พระสิริมังคลาจารย์. (2523). จักกวาฬทีปนี. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร.

มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

มหามกุฏราชวิทยาลัย. (2535). อรรถกถาภาษาบาลี ฉบับสยามรัฐ. กรุงเทพฯ: มหามกุฏราชวิทยาลัย.

ยุพารักษ์ ชนะบวรวัฒน์.(2560). การบนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธในสังคมไทย. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลป ศาสตรมหาบัณฑิต คณะศิลปศาสตร์: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ศรีศักร วัลลิโภดม. (2525). โบราณคดีในทศวรรษที่ผ่านมา. พระนคร: เมืองโบราณ.