แนวทางการพัฒนาอัตลักษณ์ของบัณฑิตทาง สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความนี้เป็นการศึกษา 1) อัตลักษณ์ของบัณฑิตทางรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น 2) แนวทางการพัฒนาอัตลักษณ์ของบัณฑิตทางสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น เก็บรวมรวมข้อมูลจากแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 213 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับอัตลักษณ์บัณฑิตทางสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีระดับความคิดเห็นต่ออัตลักษณ์บัณฑิตทางสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.18) โดยเรียงลำดับความคิดเห็นจากรายการข้อคำถามที่มีค่าเฉลี่ยรายมากที่สุดไปหารายการข้อคำถามที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด ดังนี้ 1) คุณธรรม จริยธรรม 2) การวิเคราะห์เชิงตัวเลขและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 3) ทักษะทางปัญญา 4) ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และ 5) ความรับผิดชอบและความรู้
ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับอัตลักษณ์บัณฑิตทางสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ตามองค์ความรู้ที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์ ทั้ง 5 ด้าน พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีระดับความคิดเห็นโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x̄ = 3.74) โดยเรียงลำดับความคิดเห็นจากรายการข้อคำถามที่มีค่าเฉลี่ยรายมากที่สุดไปหารายการข้อคำถามที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด ดังนี้ 1) องค์ความรู้ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 2) องค์ความรู้ด้านแนวคิดและทฤษฎีทางรัฐประศาสนศาสตร์ 3) องค์ความรู้ด้านการคลังและงบประมาณ 4) องค์ความรู้ด้านองค์การและการจัดการ 5) องค์ความรู้ด้านนโยบายสาธารณะ
จากการวิเคราะห์ข้อมูลงานวิจัยเชิงคุณภาพ สามารถสรุปได้ว่าแนวทางการพัฒนาอัตลักษณ์นักศึกษาหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ควรมีการจัดกิจกรรมควบคู่กับการเรียนการสอน ควรให้นักศึกษาได้ใช้ทฤษฏีที่เรียนในชั้นเรียนนำไปปฏิบัติจริงโดยผ่านรายวิชาเรียนตามหลักสูตรทั้งวิชาการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สหกิจศึกษาตลอดทั้งวิชาระเบียบวิธีวิจัยทางรัฐประศาสนศาสตร์ เพราะการปฏิบัติควบคู่กับการเรียนนั้นอาจจะทำให้หลักสูตรสามารถกำหนดอัตลักษณ์ที่มีความชัดเจน และสอดคล้องกับความต้องการของสังคม ชุมชนและท้องถิ่นได้
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กัลยา ยศคำลือ และคณะ. (2560). การพัฒนาจริยธรรมของนักศึกษาสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา, 11 (2), 13-34.
คู่มือนักศึกษามหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. (2559). มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น. ขอนแก่น : ขอนแก่นการพิมพ์.
จุฑามาศ พรรณสมัย. (2560). ประสิทธิภาพการฝึกงานของนักศึกษาสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิแห่งชาติระดับอุดมศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี. วารสารวิชาการคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 8 (2), 13-29.
ธานินทร์ ศิลป์จารุ. (2553). การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วย SPSS. (พิมพ์ครั้งที่ 11). กรุงเทพมหานคร : บิสซิเนสอาร์แอนด์ดี.
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). วิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัย. (พิมพ์ครั้งที่ 5).กรุงเทพมหานคร : สุวีริยาสาส์น.
ประกาศกฎกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาตรี สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ พ.ศ. 2558. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2562. แหล่งที่มา: http://www.mua.go.th/.
ไพศาล สรรสรวิสุทธิ์. (2551). แนวทางการพัฒนาการเรียนการสอนหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต (การปกครองท้องถิ่น) ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์. รายงานการวิจัย. คณะมนุษยศาสตร์และ: มหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์.
ศิริชัย กาญจนวาสี. (2548). สถิติประยุกต์สำหรับนักวิจัย. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อภิรดี จิโรภาส และอัศว์ศิริ ลาปีอี. (2562). การประเมินหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ. งานวิจัยกิจกรรมโครงการบูรณาการความรู้สู่ชุมชนหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิตสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ และการจัดการทรัพยากรมนุษย์. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์: มหาวิทยาลัยทักษิณ.