การจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้สมาธิเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพการจัดการเรียนรู้ รูปแบบการจัดการเรียนรู้และเพื่อเสนอรูปแบบและแนวทางการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้สมาธิเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ใช้รูปแบบวิจัยแบบผสานวิธี (Mix Research) ได้แก่ วิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative data) คือใช้แบบสอบถามเพื่อเก็บข้อมูลจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย มีจำนวน 353 คน ซึ่งใช้สูตรคำนวณตามตารางเครชชี่และมอร์แกรน (Krejcie and Morgan) ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 181 คนและวิจัยเชิงคุณภาพ (Quantitative Research) กลุ่มเป้าหมายในการสัมภาษณ์ (ln-depth Interview) ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 1 คนและครูผู้สอน จำนวน 4 คน โดยใช้วิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
ผลการวิจัยพบว่า
การศึกษาการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้สมาธิเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ทั้ง 6 ด้าน โดยภาพรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมากเรียงคะแนนเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยได้แก่ ด้านการปฏิบัติกิจกรรม รองลงมาคือการประยุกต์วิถีธรรมสู่วิถีชีวิตการสรุปการเรียนรู้เตรียมพร้อมการเรียนรู้ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และการประเมินผลตามลำดับ
รูปแบบการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โดยใช้สมาธิเป็นฐานเพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย พบว่า ครูมีรูปแบบการนำเนื้อหาไปประยุกต์ใช้ได้จริงกับการใช้สมาธิเป็นฐาน มีการบูรณาการให้สอดคล้องกับพื้นฐานความรู้ความต้องการของผู้เรียน ครูผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การวิเคราะห์การออกแบบกิจกรรมหรือการสร้างบรรยากาศในการจัดการเรียนการสอน สื่อการเรียนการสอนควรทันสมัยต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงทางวิทยาการ ครูผู้สอนสามารถทำให้ผู้เรียนมีสมาธิในการเรียน มีจิตใจที่สงบ ไม่ฟุ้งซ่าน ส่งผลให้เกิดผลสัมฤทธิ์แก่ผู้เรียนที่ดีและผู้เรียนสามารถนำเอาสิ่งที่เรียนรู้มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
ข้อเสนอแนะการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้สมาธิเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ครูผู้สอนควรมีการสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน เพื่อสร้างแรงจูงใจและเกิดจิตสํานึกในด้านคุณธรรมและจริยธรรม และสามารถนําไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวันได้ครูผู้สอนควรใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยและเหมาะสมเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้จนทําให้เกิดทักษะครูผู้สอนควรมีวิธีการวัดและประเมินผลความก้าวหน้าทางคุณธรรมจริยธรรมให้สอดคล้องและเหมาะสมกับหน่วยการเรียนรู้มีการสอดแทรกกิจกรรมภาคปฏิบัติจริงในการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมเพื่อให้นักเรียนเกิดทักษะทั้งกระบวนการคิด และการนําไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวัน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
นวพร ชลารักษ์. (2558). บทบาทของครูกับการเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21.วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น, 9 (1), 64-71.
พระกฤษณะวชิรญาโณ (วภักดิ์เพชร). (2560). การจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมในการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมแก่นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี. พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระปลัดสาธิต อมโร (จินดารอง). (2558). ศึกษาการจัดการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนาในโรงเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 เขตบางคอแหลม สังกัดกรุงเทพมหานคร. พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระมหานิพิฐพนธ์ จิรวฑฺฒโน (วงศ์อนุ). (2560). การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนด้านจริยธรรมในการเรียนสาระสังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย. พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มาลีวัล เลิศสำครศิริ. (2559). ประสิทธิผลของโปรแกรมการฝึกสมาธิ ต่อพหุปัญญาของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยเซนต์หลุยส์. วารสารพยาบาลทหารบก, 17 (3), 44-53.
วิภาพรรณ พินลา. (2560). แนวทางการจัดการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณสำหรับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21. รายงานวิจัย สาขาการสอนศิลปศาสตร์ การสอนสังคมศึกษา. คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัย :ทักษิณ.
ศุกร์ใจ เจริญสุข, เพ็ญพรรณ พิทักษ์สงคราม และไมเคิล คริสโตเฟอร์. (2558). ความหมายและปัจจัยบ่มเพาะสติจากประสบการณ์ของสตรีไทยที่ปฏิบัติธรรม. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 25 (3), 170-183.
ศุภวรรณ ธนุภาพรังสรรค์ และมาลีวัล เลิศสาครศิริ. (2558). ผลของการใช้รูปแบบการฝึกสมาธิโดยบูรณาการสติปัฏฐาน 4 กับเอสเคที 1 ต่อความสามารถทางสมอง ความตระหนักรู้ในตนเองและสัมฤทธิผลทางการเรียนของนักศึกษาพยาบาล. วารสารพยาบาลสงขลานครินทร์, 36 (Supplement), 13-28.