การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนในวิถีคนกับช้าง บ้านแม่ตะมาน ตำบลกื้ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
คำสำคัญ:
บริบทชุมชน, วิถีชีวิต, ปางช้างบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและพัฒนาการท่องเที่ยวในวิถีชีวิตคนกับช้างของชุมชน บ้านแม่ตะมาน ผู้วิจัยได้ศึกษาแนวคิดทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ และใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยการรวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) จากกลุ่มตัวอย่างในชุมชนบ้านแม่ตะมาน จำนวน 10 คน และวิเคราะห์เชิงพรรณาความ
ผลการวิจัยพบว่า บริบทชุมชนด้านการท่องเที่ยวในวิถีชีวิตคนกับช้างของชุมชน เกิดจากการพาลูกค้า ไปเที่ยวยังปางช้างต่าง ๆ และปางช้างยังไม่มีการสร้างมาตรฐานใด ๆ นักท่องเที่ยวจึงมีความกังวลสูง ดังนั้น จึงคิดสร้างปางช้างที่ได้มาตรฐานสามารถสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวได้ ศักยภาพของชุมชนที่มีต่อการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน โดยนำมาวิเคราะห์ SWOT ดังนี้ จุดแข็ง คือ ภายในชุมชนสภาพแวดล้อมมีความหลากหลายที่เอื้อต่อการท่องเที่ยว จุดอ่อน คือ การสื่อภาษาของพนักงาน โอกาส คือ การร่วมกันกับนักศึกษาจากสถาบันต่าง ๆ ในการศึกษาวิจัย อุปสรรค คือ สถานการณ์โรคระบาด เศรษฐกิจ และระยะทางที่ค่อนข้างห่างไกลจากตัวเมือง โดยมีแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยว คือ ชุมชนต้องสนับสนุนและส่งเสริมวัฒนธรรมในชุมชนเพื่อไม่ให้จางหายไป และต้องเสริมสร้างศักยภาพของชุมชนเอง
References
กรกรัณย์ ชีวะตระกุลพงษ์. (2563). โควิด-19 กระทบห่วงโซ่เศรษฐกิจโลก. สืบค้นจาก https://www. chula.ac.th
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2563). สถิตินักท่องเที่ยว. สืบค้นจาก www.mots.go.th
เจตนา พัฒนจันทร์. (2562). การจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน ชุมชนวัดตาล ตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ธง คำเกิด, อุทุมพร เรืองฤทธิ์, เพียงฤทัย เสงี่ยมศิลป์, จิตราภรณ์ เถรวัตร และ ชิดชนก มากจันทร. (2564). การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนบนฐานรากวิถีชีวิตชุมชนอย่างยั่งยืน ของตำบลต้นตาล อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ.
นิศา ชัชกุล. (2550). อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
บุษบา สิทธิการ วิยะดา เสรีวิชยสวัสดิ์ และ อิสรี แพทย์เจริญ. (2559). โครงการย่อยที่ 1 การศึกษาศักยภาพ/ ความพร้อมของระบบการท่องเที่ยวข้ามพรมแดนในเส้นทาง R3A และ R3B เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน. (รายงานวิจัย). กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ.
ปัญญาดา นาดี และ ณัฐธพร เซิบรัมย์. (2565). การพัฒนาภาพลักษณ์ทัวร์ช้างไทยเพื่อความบันเทิงในการท่องเที่ยว. ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเซีย.
ภกร รงค์นพรัตน์. (2551). การท่องเที่ยวแบบยั่งยืนในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า.
ราณี อมรินทร์รัตน์. (2551). การพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีปทุม.
สมาคมสหพันธ์ช้างไทย. (2565). วิกฤติช้างไทย. สืบค้นจาก https://www.thaielephan talliance.org/
สมเกียรติ ชัยพิบูลย์. (2551). การจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กรณีศึกษาศักยภาพการท่องเที่ยวชุมชนนครชุม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร. (รายงานวิจัย). กำแพงเพชร: มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.
อรวรรณ เกิดจันทร์ (2557). การมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นในการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศป่าชายเลนคลองโคน จังหวัดสมุทรสงคราม. (ปริญญานิพนธ์มหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
เอมอร หนูทับ (2553). การวางแผนยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนแบบบูรณาการในจังหวัดนครศรีธรรมราช. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
MGR ONLINE. (2561). ฝรั่งชอบมากส่องปางช้างที่ “แม่ตะมานเชียงใหม่” วันนี้ไม่ได้มีแค่ “ช้างโชว์” นักท่องเที่ยว แห่พาช้างแช่โคลนคึกคัก. สืบค้นจาก https://mgronline.com/local/detail/9610000016579
TDRI. (2564). วิเคราะห์ผลกระทบของโควิด – 19 ต่อธุรกิจท่องเที่ยว. สืบค้นจาก https://tdri.or.th /2021/02/covid-112/
Paitiawmalao. (2563). ขึ่ช้าง ล่องแพ กับ ปางช้างแม่ตะมาน อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่. สืบค้นจาก https://travel.trueid.netdetail/brnnKL6bdZvr?fbclid=IwAR16fBRHg7wVt2bPN39v2Q7aGJTWIdXDJl2cChzzR
vjxPgRxLrK_jj55NqE
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2024 สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน “วารสารข่วงผญา” ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
2. เนื้อหาบทความที่ปรากฏในวารสารเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ