Creative Cultural Tourism Management by Tai Lue Community Ban Pae Ton Yang Ngam, Ban Thi Subdistrict, Ban Thi District, Lamphun Province
Keywords:
Tourism Management, Tai Lue Community, Culture and WisdomAbstract
This research is quantitative. The objective is to study the creative management of cultural tourism by the Tai Lue community. Study on the promotion of tourism that generates income and the needs of tourists in creative cultural tourism management by Tai Lue Ban Pae Ton Yang Ngam community. The sample in this research is the Tai Lue population living in Ban Pae Ton yang Ngam community. The instrument in this research is an data analysis questionnaire by program (Excel) presenting the results of descriptive statistical analysis by determining the frequency distribution, percentage, mean and standard deviation.
The results showed that the potential of the community to affect the tourism of the Tai Lue community as a whole was at a high level, with an average of 4.45 (SD=0.67). Meanwhile, the creative cultural tourism model of the Tai Lue community as a whole is at a high level, accounting for an average of 4.58 (SD=0.65). A clear community business system and in the community there is an exchange of knowledge about doing community business. Convenience to Tourists, such as travel and conservation guidelines for the restoration of cultural heritage and wisdom of the Tai Lue community, were at a high level overall, accounting for an average of 4.62 (SD=0.66). Most of them agree that organizing activities related to the lifestyle and wisdom of Tai Lue will allow tourists to experience the lifestyle of the Tai Lue people more and impress tourists who come to visit the community
Downloads
References
กาญจนา สุคัณธสิริกุล. (2556). การพัฒนาคุณภาพการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุนารี). นครราชสีมา: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี.
จิราภรณ์ แก้วมณี. (2557). การจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงชุมชนบ้านหัวเขาจีน อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร). นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
เจิดศักดิ์ มานะ (2559). แรงจูงใจในการเดินทางท่องเที่ยววัดในเขตอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยแม่โจ้). เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยแม่โจ้.
ธง คำเกิด, อุทุมพร เรืองฤทธิ์, เพียงฤทัย เสงี่ยมศิลป์, จิตราภรณ์ เถรวัตร ,ชิดชนก มากจันทร์. (2564). การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนบนฐานรากวิถีชีวิตชุมชนอย่างยั่งยืนของ ตำบลต้นตาล อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ). นนทบุรี: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ.
ประกาศ ปาวา ทองสว่าง และ เกิดสิริ เจริญวิศาล. (2563). การวิเคราะห์ความหลากหลายทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมสู่การศึกษาการท่องเที่ยวพหุวัฒนธรรม. การประชุมวิชาการระดับชาติด้านการบริหารจัดการ ครั้งที่ 12 ประจำปี 2563 (น. 504-519). สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
วิลาสินี ธนพิทักษ์, วิวัฒน์ ฤทธิมา, ณติกา ไชยานุพงศ์ และ ศิริชัย กุมารจันทร์. (2561). การจัดการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เพื่อเรียนรู้นวัตกรรมฝ่ายมีชีวิตจากภูมิปัญญาชุมชนตำบลเขาปู่ อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง. วารสารเทคโนโลยีภาคใต้, 14(2), 28-38.
สุกัญญา วงศ์เจริญชัยกุล. (2561). การศึกษาแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร). นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สุชาติ อินกล่ำ (2560). การจัดการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนหยงสตาร์ ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย). สงขลา: มหาวิทยาลัยราชมงคลศรีวิชัย.
Joy Twm. (2565). แหล่งท่องเที่ยวชุมชนไทลื้อบ้านธิ. สืบค้นจาก http://www.facebook.com/joy.twm? mibextid=ibOpuv
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Copyright (c) 2025 สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน “วารสารข่วงผญา” ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
2. เนื้อหาบทความที่ปรากฏในวารสารเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
