การส่งบทความ
เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อส่งบทความ
ข้อกำหนดการส่งบทความ
ในขั้นตอนการส่งบทความ ผู้แต่งต้องตรวจสอบและยืนยันว่าปฏิบัติตามข้อกำหนดการส่งบทความทุกข้อ บทความที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดอาจถูกส่งคืนให้ผู้แต่งดำเนินการแก้ไข
-
บทความที่ส่งมาตีพิมพ์ต้องไม่เคยตีพิมพ์ในวารสารใดๆ และข้อมูลปฐมภูมิที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจะต้องมีระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี นับตั้งแต่สิ้นสุดการเก็บข้อมูล
อนึ่ง วารสารฯ เปิดรับทั้งบทความภาษาไทย และภาษาอังกฤษ -
กรอบเนื้อหาของบทความ ต้องเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ดังนี้
o ประชาธิปไตย และกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตย
o ธรรมาภิบาล
o แนวทางการบริหารงานพัฒนาประเทศ
o นโยบายสาธารณะและองค์กรทางการบริหารราชการแผ่นดิน
o การกระจายอำนาจและการปกครองท้องถิ่น
o การเมืองภาคพลเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน
o สันติวิธีและการจัดการกับความขัดแย้ง
o การสร้างเครือข่ายการพัฒนา
o ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
-
ทั้งนี้เนื้อหาดังกล่าวข้างต้น จะต้องเป็น
- ประเด็นในประเทศไทย หรือ
- ประเด็นในต่างประเทศที่มีความเกี่ยวข้องกับบริบทของประเทศไทย -
ประเภทบทความ มี 3 ประเภท ดังนี้
1. บทความวิชาการ (Academic Article): งานเขียนซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจและอยู่ในกรอบเนื้อหาที่กำหนด โดยต้องกล่าวถึงแสดงถึงความเป็นมาของปัญหา แนวทางแก้ไข โดยมีกรอบแนวคิดทฤษฎีรองรับในการวิเคราะห์ที่ชัดเจน และต้องมีการอ้างอิงตามหลักวิชาการ
2. บทความวิจัย (Research Article): การนำเสนอผลการวิจัย ที่ได้มีการศึกษาค้นคว้า ตามหลักทางวิชาการวิจัย แต่ควรนำมาปรับการนำเสนอให้อยู่ในรูปแบบบทความที่ง่ายต่อการอ่านและทำความเข้าใจ และควรให้น้ำหนักในประเด็นผลการวิจัยและข้อเสนอแนะในประเด็นการวิจัยเป็นหลัก ทั้งนี้ ผู้เขียนอาจกำหนดประเด็นจากข้อค้นพบและข้อเสนอแนะมาใช้เป็นหัวข้อหลักในบทความ
3. บทความวิจารณ์หนังสือ (Book Review) : บทความที่วิพากษ์ วิจารณ์ เนื้อหาสาระ คุณค่า ของหนังสือหรือบทความ โดยบทวิจารณ์หนังสือ จะต้องกล่าวถึงรายละเอียดของหนังสือ ได้แก่ ชื่อผู้แต่ง ปีที่พิมพ์ สำนักพิมพ์ ครั้งที่พิมพ์ จำนวนหน้า ให้ชัดเจนด้วย (พร้อมแนบไฟล์ปกหนังสือ) -
การเตรียมต้นฉบับ
- ชื่อเรื่อง ต้องชัดเจน กระชับ และสะท้อนเนื้อหาของบทความได้ถูกต้อง โดยมีชื่อเรื่องทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ให้ใช้ตัวอักษร TH SarabunPSK ขนาดของตัวอักษรเท่ากับ 20 อยู่กึ่งกลางของหน้ากระดาษ
- ชื่อผู้เขียน อยู่ถัดลงมาจากชื่อเรื่อง ให้ใช้ตัวอักษร TH SarabunPSK ขนาดของตัวอักษรเท่ากับ 16 อยู่กึ่งกลางของหน้ากระดาษ และ ให้ใส่เครื่องหมายดอกจันทน์ (asterisk) กำกับเหนืออักษรสุดท้ายของนามสกุลผู้เขียน และทำเป็นเชิงอรรถ เพื่อเขียนตำแหน่งและหน่วยงานต้นสังกัดของผู้เขียน ทั้งนี้ต้องมีชื่อผู้เขียน ตำแหน่งและหน่วยงานต้นสังกัดของผู้เขียน ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (ไม่ควรมีผู้เขียนเกิน 3 คน)
- บทคัดย่อ มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยมีคำสำคัญทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ประมาณ 3-5 คำ ทั้งนี้ บทคัดย่อแต่ละประเภทไม่ควรเกิน 1 หน้ากระดาษ หรือมีความยาวระหว่าง 300 ถึง 500 คำ โดยสรุปประเด็นที่สำคัญของบทความไว้อย่างกระชับครอบคลุมหัวข้อต่างๆ อย่างครบถ้วนดังนี้
- กรณีบทความวิจัย
• ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ระบุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการวิจัยหรือบทความวิชาการอย่างชัดเจน
• ระเบียบวิธีวิจัย: อธิบายแนวทางหรือขั้นตอนการดำเนินการวิจัย
• ผลการศึกษา: สรุปผลการค้นพบหลักของการวิจัย
• การประยุกต์ใช้ผลการศึกษา: ระบุแนวทางการนำผลการศึกษานี้ไปใช้ในทางปฏิบัติหรือเชิงนโยบาย
• ข้อสรุป: สรุปสาระสำคัญของบทความโดยรวม
- กรณีบทความวิชาการ
• ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ระบุความเป็นมาและความสำคัญของประเด็นหรือแนวคิดที่นำเสนอ
• แนวคิดที่เกี่ยวข้อง: ระบุรายละเอียดของประเด็นหลักหรือแนวคิดหลักที่นำเสนอ
• ผลการศึกษา: นำเสนอรายละเอียดของประเด็นหลักหรือแนวคิดหลักที่นำเสนอ
• ประโยชน์ของงานที่นำเสนอ: ระบุแนวทางการนำแนวคิดที่นำเสนอไปใช้ในทางปฏิบัติหรือเชิงนโยบาย
• ข้อสรุป: สรุปสาระสำคัญของบทความโดยรวม
ทั้งนี้ บทคัดย่อภาษาไทย และ บทคัดย่อภาษาอังกฤษ ให้ใช้ตัวอักษร TH SarabunPSK ขนาดของตัวอักษรเท่ากับ 16
- เนื้อหา จัดพิมพ์บนกระดาษขนาด A4 หน้าเดียว ประมาณ 26 บรรทัดต่อหนึ่งหน้า ด้วยอักษร TH SarabunPSK ขนาดของตัวอักษรเท่ากับ 18 และใส่เลขหน้าอยู่ที่มุมล่างขวาของกระดาษ ตั้งแต่ต้นจนจบบทความยกเว้นหน้าแรก โดยมีความยาว ดังนี้
- บทความวิชาการและบทความวิจัย จำนวน 16-25 หน้า (นับรวมรูปภาพและตาราง แต่ไม่นับรวมเอกสารอ้างอิงและภาคผนวก)
- บทวิจารณ์หนังสือ จำนวน 8-15 หน้า (นับรวมรูปภาพและตาราง แต่ไม่นับรวมเอกสารอ้างอิงและภาคผนวก)
- ตาราง และรูปภาพ ในเนื้อหาบทความ ต้องมีลำดับที่ ชื่อ และแหล่งที่มา โดยทำเป็นภาษาอังกฤษด้วย ในทุกตารางหรือรูปภาพ
- การอ้างอิงและบรรณานุกรม การอ้างอิงในเนื้อหาต้องเป็นไปตามรูปแบบ APA 6th (ฉบับปรับปรุง) โดยระบุ นามสกุลผู้เขียนและปีที่พิมพ์ เช่น Mitchell & Smith (1993) หรือ (Thomson, 1991a, 1991b)
กรณีอ้างถึงหน้าที่เฉพาะ ให้ระบุ (Davis, 1992: 5) ทั้งนี้ถ้าอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลภาษาไทย ผู้เขียนต้องเปลี่ยนให้เป็นภาษาอังกฤษก่อน
- บรรณานุกรม บรรณานุกรมต้องจัดเรียงตามลำดับตัวอักษรภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ถ้าอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลภาษาไทย ผู้เขียนต้องเปลี่ยนให้เป็นภาษาอังกฤษก่อน แล้วจึงนำมาเรียงลำดับกับแหล่งข้อมูลอื่นๆ
โดยระบุ:
• ชื่อ–นามสกุลและชื่อย่อผู้เขียนทั้งหมด
• ปีที่พิมพ์
• ชื่อบทความหรือชื่อหนังสือ
• ชื่อวารสารฉบับเต็ม
• เล่ม (Volume), ฉบับ (Issue), และเลขหน้า
• สำหรับหนังสือ ให้ระบุชื่อสำนักพิมพ์และสถานที่พิมพ์ - ผู้เขียนลงทะเบียนเพื่อใช้งานระบบ Thaijo 2.0 และส่งบทความทางออนไลน์ผ่านระบบ เป็นไฟล์ MS Word เท่านั้น
- เนื้อหา หรือ ข้อความในบทความถือเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล และอยู่ในความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ ทั้งนี้ ทางกองบรรณาธิการและสถาบันพระปกเกล้า ไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
ประกาศลิขสิทธิ์
@ 2020 King Prajadhipok's Institute The Government Complex Commemorating All Right Reserved.