แนวทางการพัฒนาสมรรถนะครูปฐมวัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาองค์ประกอบของสมรรถนะครูปฐมวัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 2) เพื่อศึกษาความต้องการจำเป็นเกี่ยวกับสมรรถนะครูปฐมวัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 และ 3) เพื่อจัดทำแนวทางการพัฒนาสมรรถนะครูปฐมวัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในงานวิจัยประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ ครูที่ปฏิบัติทำหน้าที่ด้านการสอนระดับปฐมวัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 โดยใช้วิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างหลายขั้นตอน (Multi-stage Random Sampling) และขนาดของกลุ่มตัวอย่างใช้ตารางของ Krejcie และ Morgan
ได้กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 144 คน และ ครูปฐมวัย จำนวน211 คนเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าดัชนีความต้องการจำเป็น ผลการวิจัยพบว่า 1) องค์ประกอบของสมรรถนะครูปฐมวัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 มีองค์ประกอบของจำนวน 5 องค์ประกอบ 2) ความต้องการจำเป็นของการพัฒนาสมรรถนะครูปฐมวัย เรียงตามความต้องการจำเป็นลำดับแรกไปหาลำดับสุดท้าย ดังนี้ 1) ด้านการบริหารจัดการชั้นเรียน 2) ด้านการบริหารหลักสูตรและการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ 3) ด้านการสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือกับชุมชนเพื่อการจัดการเรียนรู้ 4) ด้านการพัฒนาตนเอง และ 5) ด้านจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพครู ตามลำดับ 3) แนวทางการพัฒนาสมรรถนะครูปฐมวัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 โดยมีแนวทางการพัฒนาดังต่อไปนี้ 1) ด้านการบริหารจัดการชั้นเรียน แนวทาง คือ กำหนดหน้าที่ให้บุคลากร/ผู้รับผิดชอบดูแล ควรให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการดูแลชั้นเรียน การกำหนดกติกาของห้องเรียน โดยการสร้างสร้างวินัยเชิงบวกในชั้นเรียน 2) ด้านการบริหารหลักสูตรและการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ แนวทาง คือ ครูปฐมวัยควรตระหนักถึงความสำคัญของหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ มีการวิเคราะห์หลักสูตร การจัดกิจกรรมที่เน้น Active Learning 3) ด้านการสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือกับชุมชนเพื่อการจัดการเรียนรู้ แนวทาง คือ ครูปฐมวัยควรให้ความร่วมมือระหว่างผู้ปกครอง เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นำมาปรับปรุงการจัดประสบการณ์ให้กับผู้เรียนเพื่อส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก 4) ด้านการพัฒนาตนเอง แนวทาง คือ ร่วมประชุม ปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ และ 5) ด้านจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพครู แนวทาง คือ ปฏิบัติตนตามหลักการครองตน ครองคน ครองงาน เพื่อให้การปฏิบัติงานบรรลุผลสำเร็จ
Article Details
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพฯ:
กระทรวงศึกษาธิการ.
กุลยา ต้นติผลาชีวะ. (2551). รูปแบบการเรียนการสอนปฐมวัยศึกษา. กรุงเทพฯ : เบรน-เบสบุ๊คส์.
ณัฐภัสสร ชื่นสุขสมหวัง. (2557). การประเมินความต้องการจำเป็นเพื่อพัฒนาสมรรถนะทางวิชาชีพ
ของครูปฐมวัย. บัณฑิตวิทยาลัย : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ฝายวารี ประภาสะวัต. (2555). การประเมินความต้องการจำเป็นเพื่อพัฒนาความสามารถของ
ผู้ดูแลเด็กด้านการประเมินพัฒนาการและการเรียนรู้. บัณฑิตวิทยาลัย : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2553). คู่มือการประเมินสมรรถนะ ครู สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2553. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : http://www.tmk.ac.th/teacher/capasity.pdf. สืบค้น 20 ตุลาคม 2564