การพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้แบบฝึก การอ่านภาษาอังกฤษ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังใช้แบบฝึกการอ่านภาษาอังกฤษกับวิธีการสอนแบบปกติ และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อแบบฝึกการอ่านภาษาอังกฤษ ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาคาร จำนวน 4 ห้องเรียน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 2 ห้องเรียน โดยใช้วิธีการสุ่มอย่างง่ายแบบจับสลาก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกการอ่านเพื่อความเข้าใจ พบว่า ค่าความถูกต้องมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.79 และค่าความเหมาะสมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.88 อยู่ในระดับมากที่สุด แผนการจัดการเรียนรู้แบบปกติ พบว่า ค่าความถูกต้องมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.78 และค่าความเหมาะสมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.58 อยู่ในระดับมากที่สุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ค่าดัชนีความสอดคล้องมีค่าตั้งแต่ 0.67 - 1.00 แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ค่าดัชนีความสอดคล้องมีค่าตั้งแต่ 0.67-1.00 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งประกอบด้วย ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความยากง่าย ค่าอำนาจจำแนก และการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ย 2 กลุ่มอิสระ ผลการวิจัย พบว่า 1) นักเรียนที่ใช้แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอนแบบปกติโดยใช้แบบฝึกการอ่านภาษาอังกฤษสูงกว่านักเรียนที่ใช้แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอนแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01. 2) ความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้แบบปกติโดยใช้แบบฝึกการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.72 อยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กฤษฎา ด้วงติลี. (2560). การสร้างคู่มือการใช้แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนและเเท็บเล็ตสำหรับ ครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย
นฤมล แว่วสอน. (2561). การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกทักษะสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
พรพรรณ พูลเขาล้าน. (2563). การพัฒนาความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ร่วมกับเทคนิค SQ4R. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
เพียงพิศ เล็กน้อย. (2559). รายงานผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกทักษะภาษาอังกฤษ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี 1 (ดอนสักผดุงวิทย์). บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
เยาวภา ดาศรี. (2560). รายงานผลการพัฒนาชุดฝึกทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร เรื่อง My Lifestyle กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านสายตรี. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
สาวิตรี บุญนุชิต. (2562). “การพัฒนาความสามารถการอ่านเพื่อความเข้าใจโดยใช้นิทานคุณธรรม ด้วยเทคนิคการอ่าน SQ5R ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3.” วารสารภาวนาสารปริทัศน์, 1(3), 55-70.
สุนันทา สุนทรประเสริฐ. (2550). แนวการเขียนรายงาน เอกสารประกอบการอบรมปฏิบัติการของสมาคมพัฒนาวิชาชีพสู่ผู้เรียน. ราชบุรี: ธรรมรักษ์การพิมพ์.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2562). การสำรวจการอ่านของประชากร พ.ศ.2561. กรุงเทพฯ: สำนักงานสถิติแห่งชาติ.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2563). สรุปผลที่สำคัญการสำรวจการมีการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารในครัวเรือน 25 พ.ศ. 2562. กรุงเทพฯ: สำนักงานสถิติแห่งชาติ.