การศึกษาพัฒนาการความสามารถในการฟัง-การพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้วิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารด้วยกิจกรรมเพลงและเกม
คำสำคัญ:
วิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร, เพลง, เกมบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารด้วยกิจกรรมเพลงและเกม 2) ศึกษาคะแนนพัฒนาการความสามารถด้านการฟังและการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังจากได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารด้วยกิจกรรมเพลงและเกม โดยศึกษาจากประชากร คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนทรายมูลประชาราษฎร์ จำนวน 41 คน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีสอนภาษาเพื่อการสื่อสารด้วยกิจกรรมเพลงและเกม และแบบทดสอบวัดความสามารถในการฟัง-การพูดภาษาอังกฤษ สถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานด้วยการหาประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารด้วยกิจกรรมเพลงและเกมด้วยสูตรการหาประสิทธิภาพ E1/E2 และหาค่าพัฒนาการด้วยสูตรการหาค่าคะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์
ผลการวิจัยพบว่า
1. ค่าประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารด้วยกิจกรรมเพลงและเกม เท่ากับ 80.17/83.25 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2. นักเรียนมีคะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์ต่ำสุดที่ร้อยละ 6.67 และสูงสุดที่ร้อยละ 100 มีค่าเฉลี่ยคะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์ร้อยละ 68.88 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานร้อยละ 28.76
เอกสารอ้างอิง
สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
The Ministry of Education. (2008). The Basic Education Core Curriculum B.E. 2551 (A.D. 2008).
Bangkok: The Agricultural Cooperative Federation of Thailand. [in Thai].
เกริก ท่วมกลาง และ จินตนา ท่วมกลาง. (2555). การพัฒนาสื่อ/นวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อเลื่อนวิทยฐานะ.
กรุงเทพฯ: บริษัทเยลโล่การพิมพ์ (1988) จำกัด.
Kerg Thuamklang and Jintana Thuamklang. (2012). Development of educational media/innovation
to promote academic standing. Bangkok: Yellow Printing (1988) Co., Ltd. [in Thai].
จินตนา วีระปรียากูร. (2560). การพัฒนาโมเดลสภาพแวดล้อมการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อ
การสื่อสารแบบผสมผสานด้วยกระบวนการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อส่งเสริมทักษะในการสื่อสารเชิงสร้างสรรค์และทักษะการทางานร่วมกันของนักศึกษาระดับปริญญาตรี. ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต, สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
Jintana Verapreyagoon. (2017). The Development of Blended Learning Environment Model for
Communicative Language Teaching Using Active Learning to Enhance Creative Communication Skill and Collaboration skills for Undergraduate Students. A Dissertation for Doctor of Philosophy (Educational Technology and Communications). Mahasarakham University. [in Thai].
ชัยยงค์ พรหมวงศ์. (2556). การทดสอบประสิทธิภาพสื่อหรือชุดการสอน. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย,
5(1), 7-20.
Chaiyong Brahmawong. (2013). Developmental Testing of Media and Instructional Package.
Silpakorn Educational Research Journal, 5(1), 7-20. [in Thai].
ทิศนา แขมมณี. (2552). รูปแบบการเรียนการสอน: ทางเลือกที่หลากหลาย. (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพฯ:
บริษัทแอคทีฟ ฟริ้นท์ จำกัด.
Tisana Khemmani. (2009). Teaching Models: Various Options. (6th ed.). Bangkok: Active Print Co.,
Ltd. [in Thai].
ธนพร เครือวรรณ. (2562). ผลการใช้เกมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้คำศัพท์และความคงทนในการจำคำศัพท์
ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน, มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา.
Thanaporn Khrueawan. (2019). The effects of using games to develop vocabulary learning and
retention in memorizing English of Prathomsuksa 6 students. A thesis for Master of Education in Program in Curriculum and Instruction. Bansomdejchaopraya Rajabhat University. [in Thai].
ณัฐวรรณ เปล่งวิทยา. (2560). การศึกษาความสามารถในการฟัง–การพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 2 โรงเรียนบ้านหนองขามโดยใช้วิธีสอนภาษาเพื่อการสื่อสารด้วยกิจกรรมเพลงและเกม. วิทยานิพนธ์หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาต่างประเทศ, มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง. ราชบุรี.
Nuttawan Plengvithaya. (2017). A Study Of English Listening-Speaking Abilities Of Prathomsuksa II
Students At Ban Nong Kham School Using Communicative Approach Through Songs and Games. A thesis for Master of Education in Program in Teaching English as a Foreign Language. Muban Chom Bueng Rajabhat University. [in Thai].
ปัฐน์ธินันต์ เพชรรัตน์. (2561). การศึกษาความสามารถในการฟัง–การพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 1 โรงเรียนวัดศรัทธาราษฎร์ โดยใช้วิธีสอนภาษาเพื่อการสื่อสารด้วยกิจกรรมเพลงและเกม. วิทยานิพนธ์หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาต่างประเทศ, มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง.
Patthinan Patcharat. (2018). A Study Of English Listening-Speaking Abilities Of Prathomsuksa I
Students At Wat Sattharat School Using Communicative Approach Through Songs and Games. A thesis for Master of Education in Program in Teaching English as a Foreign Language. Muban Chom Bueng Rajabhat University. [in Thai].
ปัณณวิชญ์ ใบกุหลาบและสุขแก้ว คำสอน. (2558). การศึกษาคะแนนพัฒนาการความสามารถด้านการวิจัย
ของนักศึกษาครู มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จังหวัดพิษณุโลก. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 9(2), 29-50.
Punnawit Baikularb and Sukkeaw Kumsorn. (2015). A Study on Research Ability Growth Score of
Teacher Students of Pibulsongkram Rajabhat University, Phitsanulok Province. Humanities and Social Sciences Journal of Graduate School, Pibulsongkram Rajabhat University. 9(2), 29-50. [in Thai].
พภัสรัชต์ ดียิ่ง. (2561). การศึกษาผลการจัดกิจกรรมการเล่นเกมเบ็ดเตล็ดที่มีต่อความสามารถด้านการฟัง
และการพูดภาษาอังกฤษของเด็กปฐมวัยศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนชุมชนพระยาสุเรนทร์
กรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย, มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
Papassarat Deeying. (2018). Results of Minor Games Activities Affecting Young Children’s English
Listening and Speaking Abilities, Prayasuren Community Child Care Center, Bangkok. A thesis for Master of Education in Early Childhood Education. Phranakhon Rajabhat University. [in Thai].
สถาบันภาษาอังกฤษ. (2558). คู่มือการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษแนวใหม่ตามกรอบมาตรฐาน
ความสามารถทางภาษาอังกฤษที่เป็นสากล. กรุงเทพฯ. โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.
English Language Institute. (2015). The Common European Framework of Reference for Languages
(CEFR). Bangkok: The Printing Office to assist veterans organization. [in Thai].
สุขุมาภรณ์ แคสิค. (2561). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษตามแนวคิดการสอนภาษาเพื่อ
การสื่อสารและการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. ปริญญาการศึกษาดุษฎีบัณฑิต, สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน, มหาวิทยาลัยนเรศวร.
Sukumapon Cacic. (2017). The development of A Learning Management Model Based On
Communicative Language Teaching And Task Based Learning To Enhance Communicative Competence for Grade VI Students. A thesis for Master of Education in Curriculum and Instruction. Naresuan University. [in Thai].
สุคนธ์ สินธพานนท์. (2553). นวัตกรรมการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาคุณภาพของเยาวชน. (พิมพ์ครั้งที่ 4).
กรุงเทพฯ: 9119 เทคนิคพริ้นติ้ง.
Sukon Sinthapanon. (2010). Innovative Teaching and Learning to Improve the Quality of Youth.
(4th ed). Bangkok: 9119 Technic Printing. [in Thai].
แสงระวี ดอนแก้วบัว. (2558). ภาษาศาสตร์สำหรับครูสอนภาษาอังกฤษ. กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.
Saengravee Donkaewbua. (2015). Linguistics for English Teachers. Bangkok: Chulalongkorn
University Printing House. [in Thai].
สำนักทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ. (2563). ระบบประกาศผลสอบ. สืบค้นเมื่อ 24 พฤษภาคม 2563.
จาก https://www.niets.or.th/th/
National Institute of Educational Testing Service (Public Organization). (2020). Exam results
announcement system. Retrived May 24, 2020, from https://www.niets.or.th/th/ [in Thai].
EF Education First. (2562). องค์กร EF Education First จัดอันดับความรู้รอบด้านภาษาอังกฤษทั่วโลก.
สืบค้นเมื่อ 24 พฤษภาคม 2563. จาก https://www.ef.co.th/
EF Education First. (2019). The world's largest ranking of countries and regions by English skills.
Retrived May 24, 2020, from https://www.ef.co.th/ [in Thai].
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
1. บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารนี้ได้มีการตรวจสอบการลอกเลียนงานวรรณกรรมแล้ว ไม่เกินร้อยละ 25
2. บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารนี้เป็นข้อคิดเห็น ข้อค้นพบของผู้เขียนบทความ โดยผู้เขียนบทความต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลทางกฎหมายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากบทความนั้น ๆ
3. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานีก่อนเท่านั้น และจะต้องมีการอ้างอิงวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี ฉบับนั้น ๆ ด้วย