การพัฒนาผลการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนสะเต็มศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง วัสดุรอบตัวเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

ผู้แต่ง

  • มนันยา แสนเลิง banklang school
  • สาวิตรี เถาว์โท

คำสำคัญ:

การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา, ความคิดสร้างสรรค์, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน.

บทคัดย่อ

  การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2  2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 
3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา เรื่องวัสดุรอบตัวเรา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนบ้านกลาง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 5 อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 30 คน ซึ่งได้มาโดยเลือกแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้รวบรวมข้อมูลประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบวัดความคิดสร้างสรรค์ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ.(2551). หลักสูตรขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
กระทรวงศึกษาธิการ.(2551). มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ. 2560). ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551.
Ministry of Education. (2551) The Basic Education Core Curriculum B.E. 2551 Bangkok. Teachers
Council of Thailand Printing House Ladprao.[in Thai]
Ministry of Education. (2551). learning standards and indicators Sciences substance group (Revised
edition B.E.2560). By The Basic Education Core Curriculum B.E. 2551. [in Thai]
ฉัตรชัย เครืออินทร.(2557). รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรูวิชาวิทยาศาสตร เรื่องวัสดุและสมบัติของวัสดุ แบบสะเต็ม
ศึกษา (STEM education) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 5. รายงานผลการประชุมวิชาการ ระดับชาติ
“ศึกษาศาสตรวิจัย” ครั้งที่ 1 คณะศึกษาศาสตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี วันที่ 29-
30 พฤษภาคม 2557. โรงแรมหรรษา เจบี อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา.
Kruein, C. (2014). The format of learning activities for science subjects Material and properties of
material STEM education of Prathom Suksa 5 students. Proceeding of the 1st National
Academic Research Conference, Faculty of Education, Prince of Songkla University, Pattani
Campus, 29-30 May 2014. Hansa JB Am Hotel, Hat Yai District, Songkhla Province. [in Thai].
มนตรี จุฬาวัฒนทล.(2557). การศึกษาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมและคณิตศาสตร์ หรือ“สะเต็ม”. สมาคมครู
วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย, 19 (มกราคม-ธันวาคม), 2556.
Chulawatthanatol M.(2557). Science education Technology Engineering and Mathematics or “Stem”.
Teacher's Association for Science Engineering and Mathematics of Thailand,19 (January-December), 2556. [in Thai]
รักษพล ธนานุวงศ์.(2557). กิจกรรมรถไฟเหาะ บูรณาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีตามแนวคิด
สะเต็มศึกษา ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการคมนาคมขนส่งทางราง. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี, 42(185),38-41.
Thananuwong R.(2557). Roller coaster activity integrate scientific knowledge Mathematics and Technology
conceptual of STEM education. Promote learning on rail transportation. Institute for the Promotion of Teaching Science and technology. 42(185),38-41. [in Thai]
วรรณา รุ่งลักษมีศรี.(2551). ผลของการเรียนการสอนที่เน้นกระบวนการออกแบบทางวิศวกรรมที่มีต่อความสามารถใน
การแก้ปัญหาเชิงวิทยาศาสตร์ และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นผสมผสานของนักเรียน
มัธยมศึกษาตอนต้น ในโรงเรียนสาธิต. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
RungLakshmi, W. (2008). Effects of instruction emphasizing engineering design process on scientific
problem solving ability and integrated science process skills of lower secondary school
students in demonstration schools (Master of education thesis, program in Science
Education). Chulalongkorn University, Bangkok. [in Thai].
วศิณีส์ อิศรเสนา ณ อยุธยา.(2560). เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ STEM Education (สะเต็มศึกษา). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.
Israsena Na Ayutthaya W.(2560). Things to know about STEM Education (Stem education). Bankok:
Chulalongkorn University. [in Thai]
อมรรัตน์ จำปาวัตตะ.(2562) การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่องวัสดุและวัตถุ
โดยการจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอน
วิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
Jumpawatta A. (2562) The Development of Creative Thinking for Prathomsuksa 3 students on the Topic of
Materials and Objects Using the Learning Management Based on STEM Education thesis for the
master of Education Degree in Science Teaching Sakon Nakhon Rajabhat University. [in Thai]
อุไร ดอกคำ.(2562). การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามแนวสะเต็มศึกษา (STEM Education)
เรื่อง ดินในท้องงถิ่นของเรา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 2 วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอน
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
Dokcom U.(2562). The Development of science learning activities by STEM Education of Our Local Soil to
Promote the Ability to Solve Problems for Prathomsuksa 2 students thesis for Course
development and teaching and learning Ubon Ratchathani Rajabhat University. [in Thai]
Han, S.,Capraro,R.,& Capraro, M.M. How science, technology, engineering, andmathematics
(STEM) project-based learning (PBL) affects high, middle, and low achievers
differently: The impact of student factors on achievement. International Journal of
Science and Mathematics Education. 13(5): 1089-1113, 2014.
National Research Council.(2011). Knowing what students know: The science and design of
educational assessment. Committee on the Foundations of Assessment. J. Pellegrino, N.

เผยแพร่แล้ว

2021-12-26

รูปแบบการอ้างอิง

แสนเลิง ม., & เถาว์โท ส. (2021). การพัฒนาผลการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนสะเต็มศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง วัสดุรอบตัวเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. วิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี, 10(2), 1–11. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/ubonreseva/article/view/249967

ฉบับ

ประเภทบทความ

วิทยานิพนธ์