การปฏิบัติการพัฒนาการอ่านเชิงวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิค KWL – Plus กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านเป้า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 1 กัญทิมา บุญเฉลียว 18-26

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการปฏิบัติการพัฒนาการอ่านเชิงวิเคราะห์ที่จัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค KWL – Plus และเพื่อศึกษาผลการปฏิบัติการพัฒนาการอ่านเชิงวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิค KWL – Plus ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านเป้า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 1 ก่อนและหลังปฏิบัติการกลุ่มเป้าหมายในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ประจำภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 โรงเรียนบ้านเป้า สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 1 จำนวน 17 คน โดยเป็นนักเรียนชาย 6 คน นักเรียนหญิง 11 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ (1) เครื่องมือที่ใช้ในการปฏิบัติการได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค KWL – Plus จำนวน 24 แผน  (2) เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้  แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการสอนของครู แบบสัมภาษณ์ แบบบันทึกประจำวัน แบบฝึกหัดท้ายแผนการเรียนรู้ แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนท้ายวงจร แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การอ่านเชิงวิเคราะห์ การวิจัยครั้งนี้ใช้เทคนิคการวิจัยปฏิบัติการ โดยมีขั้นตอนในการดำเนินงานในลักษณะบันไดเวียน 3 วงจร การเก็บรวบรวมข้อมูลผู้วิจัยได้ดำเนินการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านเชิงวิเคราะห์ สังเกตปฏิบัติการจากการอ่านเชิงวิเคราะห์ด้วยกระบวนการเรียนรู้  ด้วยเทคนิค KWL – Plus สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ บันทึกประจำวัน แล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้ในแต่ละวงจรมาตรวจสอบความแม่นตรงวิเคราะห์ตีความสรุปและสะท้อนผลการปฏิบัติเพื่อปรับปรุงแนวทางในการดำเนินการในวงจรปฏิบัติการต่อไป การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ตรวจสอบความแม่นตรง และรายงานผลในลักษณะบรรยาย การวิเคราะห์เชิงปริมาณวิเคราะห์โดยใช้สถิติพื้นฐานและสถิติ Nonparametric การทดสอบ Wilcoxon ซึ่งวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป

                 ผลการวิจัยพบว่า

1. กระบวนการเรียนรู้ด้วยเทคนิค KWL – Plus ที่พัฒนาขึ้นช่วยให้พัฒนาผลการเรียนรู้ด้านได้อ่านและได้ฝึกคิดวิเคราะห์ กระตุ้นให้นักเรียนตั้งคำถามและรู้จักแสวงหาคำตอบจากเรื่องที่อ่าน นักเรียนได้ฝึกการจัดระบบข้อมูลความรู้และความคิดเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของข้อมูลที่ได้จากอ่าน โดยการทำแผนภาพความคิดซึ่งมีการสรุปใจความสำคัญจากแผนภาพความคิด นักเรียนได้พัฒนาความสามารถด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์และมีเป้าหมาย
   ในการอ่าน นักเรียนสามารถนำกระบวนการอ่านเชิงวิเคราะห์ไปใช้ในชีวิตประจำวันและในสาระอื่นๆ รวมทั้งผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านเชิงวิเคราะห์สูงขึ้น
2. ผลการปฏิบัติการพบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 82.21 และมีนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด การทดสอบระหว่างหลังเรียนและ ก่อนเรียน พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01