การออกแบบเครื่องมือวัดและประเมินผลในชั้นเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 44-52
คำสำคัญ:
การออกแบบเครื่องมือวัดประเมินผลในชั้นเรียน,การหาคุณภาพของเครื่องมือ,ครูและนักเรียนบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบพัฒนาเครื่องมือวัดและประเมินผลในชั้นเรียน และเพื่อตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือวัดและประเมินผลการเรียนรู้ในชั้นเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554 จำนวน 47 คน และครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนกลุ่มเป้าหมายที่สอนหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ทักษะการจัดการในการทำงานและการทำงานร่วมกัน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554 จำนวน 3 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง
ผู้วิจัยได้ออกแบบเครื่องมือวัดและประเมินผลในชั้นเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประกอบด้วยแบบทดสอบด้านความรู้/ความคิด แบบประเมินทักษะการปฏิบัติงาน และแบบสังเกตพฤติกรรมการแสดงออกในการเรียนรู้ แล้วนำไปทดลองใช้และเก็บรวบรวมข้อมูลย้อนกลับจากนักเรียนและครู
ผู้ทดลองใช้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ในการหาคุณภาพของเครื่องมือ ได้แก่ ค่าดัชนีความสอดคล้องของความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างผู้ประเมิน 2 คน ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค ค่าความยากง่าย และค่าอำนาจจำแนก
ผลการวิจัยพบว่า
- 1. ได้เครื่องมือ 3 ฉบับ คือ
1.1 แบบทดสอบด้านความรู้/ความคิด มีค่าดัชนีความสอดคล้อง อยู่ระหว่าง 0.80–1.00 ค่าความยากง่าย อยู่ระหว่าง 0.42–0.83 ค่าอำนาจจำแนก อยู่ระหว่าง 0.20–0.83 ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.84 ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 37.76 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 11.30
1.2 แบบประเมินทักษะการปฏิบัติงาน ประกอบด้วย
1.2.1 ทักษะการประกอบอาหาร ค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมกับงานที่กำหนดให้ปฏิบัติ อยู่ระหว่าง 0.80–1.00 ค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างคะแนนเกณฑ์ที่กำหนดกับรายละเอียดการให้คะแนน อยู่ระหว่าง 0.80–1.00
1.2.2 ทักษะการประกอบ ติดตั้งที่แขวนพวงกุญแจ ค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างจุดประสงค์ เชิงพฤติกรรมกับงานที่กำหนดให้ปฏิบัติ อยู่ระหว่าง 0.80–1.00 ค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างคะแนนเกณฑ์ที่กำหนดกับรายละเอียดการให้คะแนน อยู่ระหว่าง 0.80–1.00
1.2.3 ทักษะการประดิษฐ์ ของใช้ ของตกแต่ง ค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมกับงานที่กำหนดให้ปฏิบัติ อยู่ระหว่าง 0.80 – 1.00 ค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างคะแนนเกณฑ์ที่กำหนดกับรายละเอียดการให้คะแนน อยู่ระหว่าง 0.80 – 1.00
ผู้วิจัยได้นำแบบประเมินทักษะการปฏิบัติ ทั้ง 3 ฉบับ ไปหาค่าความสอดคล้องของผู้ประเมิน (RAI) โดยใช้ผู้ประเมิน 2 คน มีค่าเท่ากับ 0.90
1.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการแสดงออกในการเรียนรู้ 3 ด้าน คือ ด้านความรับผิดชอบ ด้านความสนใจ และด้านกระบวนการทำงานกลุ่ม มีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างพฤติกรรมที่มุ่งวัดกับคุณลักษณะของผู้เรียน เท่ากับ 1.00 และได้ค่าความสอดคล้องของผู้ประเมิน (RAI) โดยใช้ผู้ประเมิน 2 คน มีค่าเท่ากับ 1.00
คู่มือการใช้การออกแบบเครื่องมือวัดและประเมินผลในชั้นเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผู้วิจัยได้นำไปให้ครูทดลองใช้ จำนวน 3 คน มีผลการใช้ ดังนี้
- ด้านคู่มือการใช้ พบว่า เขียนอธิบายรูปแบบและวัตถุประสงค์ของการออกแบบเครื่องมือวัดและประเมินผลในชั้นเรียน ตามองค์ประกอบของการออกแบบพัฒนาเครื่องมือการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ตามแนวคิดและหลักการสร้างเครื่องมือวัดที่มีคุณภาพ อธิบายได้เข้าใจง่าย
- ด้านการนำไปใช้ พบว่า ผู้ทดลองใช้จะต้องใช้เวลาในการศึกษา และทำความเข้าใจจึงจะเข้าใจขั้นตอนการออกแบบ และได้รับการตอบรับจากนักเรียนเป็นอย่างดี
- ด้านประโยชน์ พบว่า ผู้ทดลองใช้ ได้รู้วิธีการสร้างและพัฒนาเครื่องมือวัดและประเมินผลตามหลักการวัดและประเมินผล
เอกสารอ้างอิง
4 (ตุลาคม–ธันวาคม 2547) : 8–18.
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, สำนักงาน. เอกสารประกอบหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ, 2551.
คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, สำนักงาน. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542. กรุงเทพฯ:
โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2542.
ชวาล แพรัตกุล. เทคนิคการวัดผล. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ: วัฒนาพานิช, 2516.
บุญชม ศรีสะอาด. การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 7, กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น, 2545.
มิ่ง เทพควรเมือง และวาริน ชมตะคุ. การตรวจสอบความสอดคล้องของผู้ประเมินจากการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายประถม). กรุงเทพฯ: โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, ประสานมิตร (ฝ่ายประถม) มหาวิทยาลัย
ศรีนครินทรวิโรฒ, 2555.
ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ.. เทคนิคการวัดผลการเรียนรู้. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาสน์, 2543.
วาโร เพ็งสวัสดิ์. การวิจัยในชั้นเรียน. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น, 2546.
ศิริชัย กาญจนวาสี. ทฤษฎีการทดสอบแบบดั้งเดิม. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2552.
สมพร บุญกล่อม. การพัฒนาแบบประเมินผลการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒิ, 2552.
สุพัตรา มาพงษ์. การออกแบบเครื่องมือวัดและประเมินผลในชั้นเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 2556.
สุรชัย มีชาญ. “ดัชนีสอดคล้องระหว่างผู้ประเมิน,” วารสารสงขลานครินทร์ ฉบับสังคมศาสตร์และ
มนุษย์ศาสตร์. 10 (พฤษภาคม–สิงหาคม 2547) : 113-126.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
1. บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารนี้ได้มีการตรวจสอบการลอกเลียนงานวรรณกรรมแล้ว ไม่เกินร้อยละ 25
2. บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารนี้เป็นข้อคิดเห็น ข้อค้นพบของผู้เขียนบทความ โดยผู้เขียนบทความต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลทางกฎหมายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากบทความนั้น ๆ
3. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานีก่อนเท่านั้น และจะต้องมีการอ้างอิงวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี ฉบับนั้น ๆ ด้วย