รูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานสำหรับสถานศึกษาขนาดเล็ก ในเขตภาคเหนือตอนบน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 104-114
คำสำคัญ:
การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานสถานศึกษาขนาดเล็กบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานและเพื่อสร้างรูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานสำหรับสถานศึกษาขนาดเล็กในเขตภาคเหนือตอนบนการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บริหาร ครูผู้สอน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในโรงเรียนขนาดเล็ก จำนวน 969 คน ระยะที่ 2การสร้างรูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน แบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ การสร้างรูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบวิเคราะห์เนื้อหาสังเคราะห์รูปแบบ สร้างรูปแบบ และการตรวจสอบรูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ผู้ให้ข้อมูล คือ ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 11 ท่าน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบประเมินวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ส่วนผลการศึกษาปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง และผลการสร้างรูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน พบว่ามี 7 องค์ประกอบ ได้แก่ วัตถุประสงค์ หลักการ ระบบและกลไกของยุทธศาสตร์ กระบวนการ/กิจกรรม เป้าหมายสำคัญปลายทาง เงื่อนไขความสำเร็จ และผลการตรวจสอบรูปแบบ พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
เอกสารอ้างอิง
คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, สำนักงาน. รายงานการประชุมแนวคิดและประสบการณ์โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School-Based Management). กรุงเทพฯ: บริษัท พิมพ์ดี จำกัด, 2544.
ดิเรก วรรณเศียร. การพัฒนาแบบจำลองแบบสมบูรณ์ในการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานสำหรับสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2545.
พิมพ์ใจ อุ่นบ้าน. รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำด้านการสร้างเสริมสุขภาพของนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาล สังกัดสถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณะสุข. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2555.
รับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา, สำนักงาน. ข้อเสนอแนะต่อการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการจัดการศึกษา 3 ระดับ. กรุงเทพฯ: สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา, 2552.
เลขาธิการสภาการศึกษา, สำนักงาน. เกณฑ์มาตรฐานและตัวชี้วัดการบริหารฐานโรงเรียน. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, 2547.
. สภาวการณ์การศึกษาไทยในเวทีโลก พ.ศ. 2550. กรุงเทพฯ: บริษัทพริกหวานกราฟฟิค, 2550.
วลัยพร แสงนภาบวร. การพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนของโรงเรียนขนาดเล็ก. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, 2550.
สมเดช สีแสง และคนอื่น ๆ. การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการที่ส่งเสริมคุณภาพการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็กสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครสวรรค์ เขต 3. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ, 2550.
สมศักดิ์ ภู่วิภาดาวรรธน์ และคนอื่น ๆ. การวิจัยและพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูและผู้บริหารสถานศึกษาแบบใช้โรงเรียนเป็นฐานในโรงเรียนขนาดเล็ก จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, 2554.
อุทัย บุญประเสริฐ. การบริหารจัดการสถานศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2545.
. การศึกษาการศึกษาแนวทางการบริหารและจัดการศึกษาของสถานศึกษาในรูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน : School-Based Management. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2543.
Cronbach, L. J. Essentials of Psychological Testing. 3rd ed. New York: University of Chicago, 1970.
Krejecie, R. V. and K. Morrison. “Determining Sample Size for Research Activities,” Educational and Psychological Measurement. 30,3 (1970): 607-610.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
1. บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารนี้ได้มีการตรวจสอบการลอกเลียนงานวรรณกรรมแล้ว ไม่เกินร้อยละ 25
2. บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารนี้เป็นข้อคิดเห็น ข้อค้นพบของผู้เขียนบทความ โดยผู้เขียนบทความต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลทางกฎหมายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากบทความนั้น ๆ
3. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานีก่อนเท่านั้น และจะต้องมีการอ้างอิงวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี ฉบับนั้น ๆ ด้วย