การพัฒนาหลักสูตรเสริมทักษะภาษาอังกฤษตามแนวคิดการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร เรื่อง กิจกรรมการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของหลักสูตรเสริมทักษะภาษาอังกฤษตามแนวคิดการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร เรื่องกิจกรรมการสื่อสารในชีวิตประจำวันระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบทักษะภาษาอังกฤษก่อนเรียนและหลังเรียน และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่ได้เรียนด้วยหลักสูตรเสริม กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนปากจาบวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิเขต เขต 3 จำนวน 14 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบสุ่มกลุ่ม หลักสูตรเสริมทักษะภาษาอังกฤษตามแนวคิดการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร เรื่องกิจกรรมการสื่อสารในชีวิตประจำวันระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ตามหน่วยการเรียนรู้ จำนวน 5 หน่วย รวม 20 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งเป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่ได้เรียนด้วยหลักสูตรเสริมทักษะภาษาอังกฤษตามแนวคิดการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร เรื่องกิจกรรมการสื่อสารในชีวิตประจำวัน จำนวน 24 ข้อ สถิติที่ใช้ในการเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที
ผลการวิจัยพบว่า
- การพัฒนาหลักสูตรเสริมทักษะภาษาอังกฤษตามแนวคิดการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร เรื่องกิจกรรมการสื่อสารในชีวิตประจำวันระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.21/81.61 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
- 2. นักเรียนมีทักษะภาษาอังกฤษหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
- นักเรียนมีความพึงพอใจที่ได้เรียนด้วยหลักสูตรเสริมทักษะภาษาอังกฤษตามแนวคิดการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร เรื่องกิจกรรมการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ระดับมาก
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารนี้ได้มีการตรวจสอบการลอกเลียนงานวรรณกรรมแล้ว ไม่เกินร้อยละ 25
2. บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารนี้เป็นข้อคิดเห็น ข้อค้นพบของผู้เขียนบทความ โดยผู้เขียนบทความต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลทางกฎหมายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากบทความนั้น ๆ
3. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานีก่อนเท่านั้น และจะต้องมีการอ้างอิงวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี ฉบับนั้น ๆ ด้วย