The Development of Reading Comprehension Ability of Grade 5 Students by using Scaffolding Learning Management.

Authors

  • sirimas sitthijinda -
  • Sariyagan Yeekengaem
  • Piyaporn Phitchayapirath

Keywords:

reading comprehension, scaffolding learning management model

Abstract

            The purpose of this research were 1) to compare the reading comprehension ability of Grade 5 students by using learning management techniques to enhance learning. Before learning and after learning 2) To study the satisfaction of Grade 5 students by organizing learning with techniques to enhance learning. The sample group used in the research was 14 Grade 5 students in the 2nd semester of the 2022 academic year at Ban Na Dun School which were obtained from Cluster Random Sampling using the lottery method. Using network schools is a random unit Research tools include learning management plans. Develop reading comprehension ability with 6 additional techniques for learning. A test to measure reading comprehension ability. It is a multiple-choice test with 4 options, 30 questions, satisfaction questionnaire. Statistics used to analyze the data include mean ( ) standard deviation (S) and t-test (Dependent Samples).

            The research findings were as follows:

  1. Ability to read and understand the main points of Grade 5 students by using learning management techniques to enhance learning. Learning after school is higher than before. Statistically significant at the .05 level, which is in line with the hypothesis set.
  2. The students who were taught using the scaffolding learning style were satisfied with the learning activities overall at the highest level of satisfaction.

References

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

กมลวรรณ บุตรน้อย. การพัฒนาความสามารถในการอ่านจับใจความและความสามารถในการคิดวิเคราะห์

วิชาภาษาไทยโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบตกผลึกชั้นประถมศึกษาปีที่3. (2563). ปริญญานิพนธ์

การศึกษา มหาบัณฑิต สาขาวิชา วิทยาการทางการศึกษาและการจัดการเรียนรู้

มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

เกศแก้ว คงคล้าย. (2562). ผลของการเรียนรู้จากตัวแบบร่วมกับกลวิธีการเสริมต่อการเรียนรู้ที่มีต่อความสามารถในการอ่านทำนองเสนาะและเจตคติต่อการอ่าน

ทำนองเสนาะของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5.

ปริญญานิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการทางการศึกษาและการจัดการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

บรรพตรี ศรีหะมงคล. (2565). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านและ

การเขียน คำภาษาไทยที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราโดยใช้การจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือเทคนิค LT ร่วมกับการเสริมต่อการเรียนรู้สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1.

วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิจัยหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.

โรงเรียนบ้านนาดูน. (2565). รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านนาดูน อุบลราชธานี: โรงเรียนบ้านนาดูน.

ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. (2538). เทคนิคการวิจัยทางการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.

วนิดา พรมเขต. (2559). การพัฒนาทักษะการอ่าน. อุดรธานี: คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี.

สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ. (ม.ป.ป.). รายงานข้อค้นพบตัวชี้วัดที่ควรได้รับการพัฒนาจากการวิเคราะห์ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ

ขั้นพื้นฐาน (O-NET). ชั้น ม.3 (รายงานผลการวิจัย).กรุงเทพฯ: ม.ป.ท.

สิริวรรณ ชัยชนะพีระกุล. (2564). การพัฒนาการอ่านจับใจความสำคัญวิชาภาษาไทยโดยใช้วิธีการสอน

แบบพาโนรามาร่วมกับหนังสือวรรณกรรมเยาวชนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5.

วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา หลักสูตรและการสอนคณะครุศาสตร์

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์.

สุรางค์ โค้วตระกูล. (2556). จิตวิทยาการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 8). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Hallenbeck, M., J. (1997). From the Inside Out: Adolescents with Learning Disabilities Think and Talk about Writing.

Retrieved October 30, 2022, from http://thailiscar.chula.ac.th/dua/detail.nsp.

Downloads

Published

2024-06-04

How to Cite

sitthijinda, sirimas, Yeekengaem, S., & Phitchayapirath, P. . (2024). The Development of Reading Comprehension Ability of Grade 5 Students by using Scaffolding Learning Management. Ubon Ratchathani Journal of Research and Evaluation, 13(1), 45–54. Retrieved from https://so06.tci-thaijo.org/index.php/ubonreseva/article/view/268640