การสื่อสารเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านสุขภาพ โดยใช้แนวคิดเชิงระบบ: กรณีศึกษาโรงเรียนบ้านปลาดุก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานีเขต 1
ชุดกิจกรรมการสื่อสาร แนวคิดเชิงระบบ พฤติกรรมด้านสุขภาพ ความรอบรู้ด้านสุขภาพ
คำสำคัญ:
ชุดกิจกรรมการสื่อสาร, แนวคิดเชิงระบบ, พฤติกรรมด้านสุขภาพ, ความรอบรู้ด้านสุขภาพบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อเปรียบเทียบความรอบรู้ด้านสุขภาพของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลังการเรียนตามชุดกิจกรรมการสื่อสารเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านสุขภาพ 2) เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมด้านสุขภาพของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลังการเรียนตามชุดกิจกรรมฯ และ3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ต่อการเรียนตามชุดกิจกรรมฯ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านปลาดุก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุบลราชธานี เขต 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบเป็นกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ ชุดกิจกรรมการสื่อสารเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านสุขภาพ โดยใช้แนวคิดเชิงระบบ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดความรอบรู้ด้านสุขภาพ แบบวัดพฤติกรรมด้านสุขภาพ แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีแบบไม่เป็นอิสระแก่กัน
ผลการวิจัยพบว่า
ผลการเปรียบเทียบคะแนนความรอบรู้ด้านสุขภาพ พฤติกรรมด้านสุขภาพ พบว่านักเรียนมีค่าเฉลี่ยของคะแนน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมฯ หลังเรียน พบว่ามีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
เอกสารอ้างอิง
ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ และคณะ. อาหารและโภชนาการ. นครปฐม : สถาบันวิจัยโภชนาการ
มหาวิทยาลัยมหิดล. 2562.
จันทรานี สงวนนาม. ทฤษฎีแนวปฏิบัติการบริหารสถานศึกษา. กรุงเทพฯ: บุ๊ค พอยท์.2545.
ทรรศนีย์ บุญมั่น. ปัจจัยที่มีผลต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำ
หมู่บ้าน จังหวัดสุโขทัย. วิทยานิพนธ์ ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา
สาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร. 2564.
ปฏิวัติ แก้วรัตน์. ผลการจัดการเรียนรู้ในกลุ่มสุขศึกษาและพลศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
โดยใช้รูปแบบการสอนแบบโครงงาน.วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษา, ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2546.
โรงเรียนบ้านปลาดุก. รายงานผลการประเมินโครงการส่งเสริมสุขภาพ ปีการศึกษา 2565.
อุบลราชธานี: โรงเรียนบ้านปลาดุก. 2565.
วิภาวิน โมสูงเนิน. การสื่อสารสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขในกรณีการระบาดของโรคไข้หวัด
ใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009. วิทยานิพนธ์ ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา
สาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร. 2553.
ศิริพรรณ ศิริบุญนาม. การศึกษาเปรียบเทียบผลการเรียนแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น โดยใช้พหุ
ปัญญากับการสืบเสาะแบบ สสวท. ที่มีต่อแนวความคิดเลือกเกี่ยวกับมโนมติชีววิทยา :
การย่อยอาหาร การหมุนเวียนเลือดและก๊าซและการกำจัดของเสียและการคิด
วิพากษ์วิจารณ์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษา
มหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
อรุณี เมืองนา. การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้ แนวคิดการเรียนการสอนแบบลงมือปฏิบัติจริง
(Active Learning) ในวิชางานธุรกิจสำหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนตัน. วิทยานิพนธ์ปริญญา
ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย เชียงใหม่:
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 2539.
Comia, A. & Ryan, C. Creative movement: A powerful strategy to teach science.
Retrieved November 27, 2006. [Online]. Available:
http://openlibrary.org/b/OL21549770M/Creative_movement_A_powerful_str
ategy_to teach_science. [2014, August 23].2006.
Ratzan SC. & Parker RM. Introduction. In: National Library of Medicine Current
Bibliographies in Medicine: Health Literacy. NLM Pub. No.CBM 2006.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารนี้ได้มีการตรวจสอบการลอกเลียนงานวรรณกรรมแล้ว ไม่เกินร้อยละ 25
2. บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารนี้เป็นข้อคิดเห็น ข้อค้นพบของผู้เขียนบทความ โดยผู้เขียนบทความต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลทางกฎหมายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากบทความนั้น ๆ
3. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานีก่อนเท่านั้น และจะต้องมีการอ้างอิงวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี ฉบับนั้น ๆ ด้วย