การจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ในบริบทของชีวิตจริง เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
คำสำคัญ:
การจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์, บริบทในชีวิตจริง, ความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหา อย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ในบริบทของชีวิตจริง และ 2) เปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ในบริบทของชีวิตจริง กับเกณฑ์ร้อยละ 70 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ที่ศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 50 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ในบริบทของชีวิตจริง และ แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งมีค่าความยากง่าย 0.24 - 0.63 และค่าอำนาจจำแนก 0.46 - 0.81 และค่าความเชื่อมั่น โดยใช้สัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบัค 0.754 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าทีชนิดกลุ่มตัวอย่าง ไม่เป็นอิสระต่อกัน และการทดสอบค่าทีชนิดกลุ่มตัวอย่าง 1 กลุ่ม
ผลการวิจัยพบว่า 1) ความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ในบริบทของชีวิตจริงหลังเรียน (M = 18.28, SD = 1.36) สูงกว่าก่อนเรียน (M = 11.09, SD = 2.87) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ 2) ความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนโดยการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ในบริบทของชีวิตจริง สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยมีคะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 73.12 จากคะแนนเต็ม 25 คะแนน
เอกสารอ้างอิง
ณัฐริกา สิทธิชัย, วันดี เกษมสุขพิพัฒน์ และชนิศวรา เลิศอมรพงษ์. (2567). การศึกษาความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ หลังการจัดการเรียนรู้ผสมผสานตามรูปแบบ 3CM (Cool-Critical-Creative-Meaningful) เรื่อง ความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. Journal of Education and Innovation. 26(2): 118 - 131.
ทิพย์วรรณ จันทร์เขียว และชมนาด เชื้อสุวรรณทวี. (2565). การจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด (Think-Pair-Share) ที่มีต่อความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม). วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์. 9(5): 174 - 185.
อาภาพรรณ ประทุมไทย. (2563). ผลของกระบวนการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ที่มีต่อความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ทักษะการทำงานกลุ่ม และการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี. 31(2): 77 - 94.
Creative Education Foundation. (2024). What is CPS?. [Online], Available: https://www.creativeeducationfoundation.org/what-is-cps. (2024, 9 May).
Lazonder, A. W., & Harmsen, R. (2022). Real life contexts in problem based learning: Effects on students’ motivation and performance. Educational Psychology Review. 34(3): 655 - 673.
Nguyen, T. T., Pham, A. G. & Phan, T. T. (2020) Real-life Task in Mathematics Teaching: A Case of Statistics Teaching in Order to Educate some Economic Knowledge for Students at High School. Journal of Science. 36(2): 27 - 39.
OECD. (2023). PISA 2022 Results (Volume I and II) - Country Notes: Thailand. [Online], Available: https://www.oecd.org/en/publications/pisa-2022-results-volume-i-and-ii-country-notes_ed6fbcc5-en/thailand_6138f4af-en.html. (2024, 9 May).
Polya, G. (1975). How to solve it? A new Aspect of Mathematical Method. Princeton, NJ: Princeton University.
Runco, M. A., & Acar, S. (2021). Divergent Thinking as an Indicator of Creative Potential. Creativity Research Journal. 24(1): 66 - 75.
Tetty, N. S. et al. (2022). Improving Students’ Creative Problem-Solving Skills in Online-Onsite Based Mathematics Learning. AL-ISHLAH Journal Pendidikan. 14(2): 1755 - 1764.
Treffinger, D. J., Isaksen, S. G., และ Dorval, K. B. (2000). Creative Problem Solving (CPS Version 6.1™) A Contemporary Framework for Managing Change. Center for Creative Learning.
Wahyudi, W. et al. (2020). The Impact of 3CM Model within Blended Learning to Enhance Students’ Creative Thinking Ability. Journal of Technology and Science Education. 10(1): 32 - 46.
Wang, X., Somasundram, P. & Zhang, J. (2025). The Impact of 3CM Model within Blended Learning to Enhance Students’ Creative Thinking Ability. [Online], Available: Frontiers in Education. (2025, 13 June).
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 โยษิตา ศรีคำยงค์, ชมนาด เชื้อสุวรรณทวี, รุ่งทิวา แย้มรุ่ง

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ เป็นความคิดเห็นของผู้นิพนธ์แต่ละท่าน มิใช่เป็นทัศนะและมิใช่ความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการจัดทำวารสาร และ
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์