DEVELOPMENT OF A ROLE PLAY LEARNING ACTIVITIES MODEL TO ENHANCE ENGLISH SPEAKING SKILLS BY APPLYING SECI MODEL FOR GRADE 7 STUDENTS
Main Article Content
Abstract
The purposes of this study were as follows: 1) to design a role-playing learning activity format for Grade 7 students and evaluate its efficiency based on the 80/80 criterion; 2) to compare the English-speaking skills of students before and after learning through the role-play activity format (pretest and posttest); 3) To assess the satisfaction of Grade 7 students who used the role-play learning activity format. The sample group consisted of Grade 7 students from a primary school under the jurisdiction of a municipality. The research tools included the role-play learning activity format, lesson plans, an English-speaking skills test, and a satisfaction assessment form. Statistical data were analyzed using dependent samples t-tests, means, and standard deviations.
The results of the research were as follows: 1) the role-play learning activity format consisted of four steps: 1. socialization step, 2. externalization step, 3. combination step, and
4. internalization step. The efficiency of the role-play learning activity format, as developed by the researcher, was 77.56/82.44, meeting the specified standard criteria. 2) Posttest English speaking skills scores (𝑥̅ = 24.73, S.D. = 2.41) were significantly higher than pretest scores (𝑥̅ = 12.87, S.D. = 4.52), with statistical significance at the .05 level. 3) Grade 7 students expressed high satisfaction with the role-play learning activity format (𝑥̅ = 4.35, S.D. = 0.65).
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์บทความวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยเป็นลายลักษณ์อักษร
ความรับผิดชอบ เนื้อหาต้นฉบับที่ปรากฏในวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นความรับผิดชอบของผู้นิพนธ์บทความหรือผู้เขียนเอง ทั้งนี้ไม่รวมความผิดพลาดอันเกิดจากเทคนิคการพิมพ์
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. โรงพิมพ์คุรุสภา.
ชัยยงค์ พรหมวงศ์. (2526). การทดสอบประสิทธิภาพสื่อหรือชุดการสอน. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย.
ชุติมา ธรรมรักษา. (2551). การประยุกต์ใช้ SECI Model เพื่อสอนวิชาภาษาอังกฤษในระดับมหาวิทยาลัย.มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
ณัฐชญา บุปผาชาติ. (2561). การใช้กิจกรรมบทบาทสมมติเพื่อพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
บุญชม ศรีสะอาด. (2552). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 9). สุวีริยาสาสน์.
ปาริษา คำบุรี. (2560). การจัดการเรียนรู้โดยใช้การแสดงบทบาทสมมุติเพื่อพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง.
พชร อยู่สวัสดิ์, และสุพงศ์ ตั้งเคียงศิริสิน. (2559). ผลกระทบของข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์และหลักการเขียนที่มีต่อความคิดที่ผู้อ่านมีต่อผู้เขียนอีเมล. วารสารภาษาปริทัศน์.
มณฑา พลรักษ์. (2565). ผลของการใช้นวัตกรรมกระบวนการสร้างความรู้“SECI” ในการจัดกิจกรรมการเรียนการ สอนวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ให้กับนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาขนส่งทางราง ชั้นปีที่ 3 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง.
รัศมิ์ลภัส กัลยาณเลิศ. (2565). การพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีวงจรความรู้ (Knowledge Spiral : SECI model) เรื่อง ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ้าทอกะเหรี่ยง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5.มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(องค์การมหาชน). (2565). รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ขั้นพื้นฐาน.